fbpx
Blogs 7 August 2021

ต่อยอดการวางแผนกลยุทธ์จาก SWOT ด้วยตาราง IE Matrix

IE Matrix หรือ Internal – External Matrix อีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับการวางแผนกลยุทธ์ระดับองค์กร (Corporate Strategy) ในการประเมินสถานการณ์ของธุรกิจ โดยทำการวิเคราะห์ผ่าน 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ Business Strength (ปัจจัยภายในของธุรกิจ) และ Industry Attractiveness (ปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวกับธุรกิจ)

โดยเป็นการต่อยอดมาจาก SWOT Analysis ควบคู่ไปกับการทำ Rating 1-4 คะแนน (คะแนนที่แสดงระดับความสามารถขององค์กรต่อปัจจัย) และ Weighted score (ระดับความสำคัญของปัจจัยต่อองค์กร) ซึ่งเกิดการจาก Weight คะแนน SWOT แต่ละข้อให้เป็นรวมได้ออกมาเป็น 1 และนำไปคูณกับ Rating จะได้ออกมาเป็นคะแนนของแต่ละปัจจัยข้างต้น ซึ่งคะแนนดังกล่าวจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ สูง (3-4 คะแนน) กลาง (2-3 คะแนน) และ ต่ำ (1-2 คะแนน) นำมาประกอบเป็นตาราง IE Matrix ที่มีทั้งหมด 9 ช่อง เกิดจากการตัดกันของระดับคะแนนทั้ง 2 ปัจจัย ซึ่งจะทำให้องค์กรสามารถวิเคราะห์ออกมาเป็น กลยุทธ์ได้ 3 แบบ ดังนี้

  1. Growth Strategy

กลยุทธ์การเติบโต เหมาะสำหรับธุรกิจที่กำลังประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง และมีโอกาสที่จะขยาย เช่น พัฒนาสินค้าใหม่ การลงทุนในธุรกิจใหม่ เพิ่มส่วนแบ่งทางตลาด การควบรวมกิจการ และการเพิ่มยอดขาย เป็นต้น

  1. Stability Strategy

กลยุทธ์คงที่ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ส่งผลให้ธุรกิจอาจจะควรหยุดการเติบโตชั่วคราว เพื่อพัฒนาองค์กรให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งถ้าหากยังไม่เป็นผลดีขึ้นอาจต้องใช้กลยุทธ์ในลำดับถัดไป

  1. Retrenchment Strategy

กลยุทธ์แบบหดตัว คือการดำเนินธุรกิจแบบลดกิจกรรมบางอย่างลงเพื่อยังคงสภาพคล่องของบริษัทเอาไว้ได้ หรือไม่เช่นนั้นอาจพิจารณาการเลิกลงทุน หรือปิดกิจการได้หากไม่สามารถสู้คู่แข่งหรือมีการเปลี่ยนแปลงของตลาดเกิดขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก Greed is Good