“ได้ลงมือทำจริง และมี International Exposure” 2 โอกาสจาก Bluebik ที่ “บอส” Senior Consultant ใช้ต่อยอดจนสอบติด MBA ที่ Cambridge

ทุกๆ ปี Cambridge Judge Business School จะคัดสรรนักเรียนระดับท็อปจากทั่วทุกมุมโลกอย่างเข้มข้น จนสรุปรายชื่อออกมาเป็นนักเรียนราวๆ 200 คน

สำหรับคลาสปี 2024 ที่กำลังจะเปิดเทอมเร็วๆ นี้ 1 ใน 200 คนนั้นคือ “บอส-ศุภวิชญ์ พันธ์นรา” Senior Consultant ประจำทีม Management Consulting & Strategy ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลากหลายโปรเจกต์ เช่น Application ขององค์กรระดับประเทศที่ช่วยอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของ User ซึ่งบอสนี่เองที่เป็นคนวางแผนและร่วมพัฒนาฟีเจอร์เด่นๆ อันเป็นจุดขายของแอปฯ 

แม้จะเรียนจบระดับปริญญาโทด้านการเงินจาก The John Hopkins University แต่ระหว่างเรียนบอสค้นพบแพสชันในการทำงานสาย Consult จากการเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยไปแข่งขัน Venture Capital Investment Case (VCIC) ที่ Silicon Valley และ JHGCC 9th Healthcare Case Competition จนตัดสินใจมามุ่งมั่นเอาดีในฐานะ Management Consultant

“ตอนไปแข่งเรารู้สึกท้าทายมาก เพราะหลายอย่างที่ทำคือสิ่งที่ไม่เคยเรียนในห้องเรียน เราต้องเอาสิ่งที่เรียนมาปรับใช้ แล้วโจทย์ก็เป็นปลายเปิด ไม่ได้เป็นสูตรคณิตศาสตร์ตายตัว เราต้องคิดหาวิธีเอง เอาสูตรที่เรามีไปลองใช้เอง” 

ไม่ต้องสงสัยว่า “สูตร” ที่บอสลองใช้นั้นสำเร็จหรือไม่ เพราะเขาทำงานเป็น Management Consultant มาได้กว่า 4 ปีแล้ว โดยเวลากว่าครึ่งนั้น เขาใช้ไปกับการช่วยเหลือลูกค้าคนสำคัญให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ Bluebik นั่นเอง

ก่อนบอสจะบินลัดฟ้าไปเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิต เขายินดีมาแบ่งปันประสบการณ์การทำงานที่ Bluebik และการเตรียมตัวสมัครเรียน MBA ในมหาวิทยาลัยระดับ Top Ten ของโลกให้เราฟัง

เพราะวาง Strategy มาดี จึงออกตัวได้แรงและเร็ว

แม้จะเรียนจบปริญญาโทมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่บอสมองว่า MBA เป็นจิ๊กซอว์ที่จะช่วยมาเติมเต็มทักษะที่ขาดหายในฐานะ Management Consultant และเปิดประตูสู่อนาคตให้กับเขา

“เราทำ Consult มาสักพักใหญ่ๆ จนมาถึงจุดที่เรารู้ว่าเราไม่รู้อะไร เช่น มีโปรเจกต์หนึ่งที่ทำกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ เรารู้เลยว่าพอต้องแตะเรื่อง Branding หรือ Creativity เราจะสู้คนอื่นไม่ได้ ก็เลยอยากพัฒนาด้านนี้ ซึ่งข้อดีของ MBA คือเราสามารถเลือกวิชาที่อยากเรียนได้ ตอนไปเรียนก็จะเลือกคอร์สที่ตรงกับจุดอ่อนของเราให้หมดเลย”

เมื่อรู้เป้าหมายของการเรียน MBA ของตัวเองอย่างชัดเจน บอสจึงวาง Strategy การสมัคร MBA ไว้อย่างดีสมกับที่เป็น Consultant

“ด้วยความที่ไม่ค่อยมีเวลา ก่อนจะอ่าน GMAT เราเลยลองทำแบบทดสอบก่อน ดูว่าได้คะแนนพาร์ตไหนน้อย แล้วเราอ่านแค่พาร์ตนั้น แล้วก็พยายามทำโจทย์ให้น้อย แต่ทำโจทย์ที่มีคุณภาพ ถ้าเจอโจทย์ที่คล้ายกับที่เราทำได้แล้ว ก็ไม่ต้องไปทำเยอะ เลือกทำเฉพาะโจทย์ที่เรามองว่าเป็นจุดอ่อน แล้วคะแนนจะขึ้นเอง

“อีกอย่างคือแม้ GMAT จะใช้ Logic เป็นหลักก็จริง แต่ก็มีเรื่องภาษาเยอะ เราเลย Subscribe เว็บไซต์อย่าง The Economist อ่านเยอะๆ มีประโยชน์ทั้งกับงานที่ทำและการเตรียมตัวสอบ

“ส่วนพาร์ต Essay เราก็ต้องคิดวิธีเล่า Story ของตัวเอง จริงๆ มันเหมือนงาน Consult เลย เราจะเล่าเรื่อง จะขายตัวเราให้มหาวิทยาลัยอย่างไร ซึ่งทุกอย่างต้องเชื่อมกัน ทำไมเราถึงอยากไปเรียน ทำไมเราถึงแตกต่างจากคนอื่น แล้วเราออกมาให้คนอ่านเข้าใจง่ายที่สุด” 

เพราะได้ลงมือทำจนสุดทาง จึงโดดเด่นไม่เหมือนใคร

กว่าครึ่งของคนที่สมัครเรียน MBA คือ Management Consultant ตอนสัมภาษณ์บอสจึงได้รับคำถามจากคณะกรรมการคัดเลือกว่า “คุณแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร”

หลายคนอาจจะรู้สึกว่าคำถามนี้ยาก แต่บอสสามารถตอบได้อย่างง่ายดาย

“เราแตกต่างจากคนอื่นเพราะได้ลงมือทำจริง บริษัทอื่นที่เราเคยทำมา Consultant จะทำกลยุทธ์เป็นหลัก ไม่ได้ไปแตะ Implementation ขนาดนั้น แต่ที่ Bluebik เราได้ทำไปจนถึงตอนที่เขาพัฒนาแอปฯ เลย เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากในสายนี้ ซึ่งส่วนตัวเราชอบมาก เราคิดว่า Consultant ทุกคนควรได้ลองทำสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเวลาเราคิด Strategy อาจมีบางอย่างที่เราคิดไม่ถึง การได้ลงไป Implement เองจริงๆ จะทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราคิด คนที่ต้องเอาไปทำต่อเขาทำได้ไหม มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า สุดท้ายมันจะทำให้เราวาง Strategy ได้ดีขึ้นด้วย เราจะคาดการณ์ไว้หมดแล้วก่อนส่งแผนให้คนอื่นทำ”

นอกจากการได้ลงมือทำจนสุดทางแล้ว บอสยังบอกด้วยว่า การอยู่ที่ Bluebik ทำให้เขามีประสบการณ์ทำงานกับลูกค้าชั้นนำจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งหากไม่ใช่บริษัทที่ปรึกษาแนวหน้าจริงๆ ก็คงไม่มีโอกาสได้ทำงานกับลูกค้าระดับนี้

เพราะมี International Exposure จึงพร้อมเรียนกับเพื่อนๆ จากทั่วโลก

ด้วยแบ็กกราวนด์การศึกษาและการทำงานในบริษัทระดับ International มาโดยตลอด บอสบอกว่า Bluebik จึงเป็นที่ทำงานที่ตอบโจทย์เขามากๆ เพราะได้ทำงานกับลูกค้าต่างชาติด้วย อย่างเช่นครั้งหนึ่งที่เขามีโอกาสได้ลีดโปรเจกต์พัฒนาแอปพลิเคชันให้กับบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย

แน่นอนว่าการมี International Exposure ก็เป็นเกณฑ์หนึ่งที่คณะกรรมการคัดเลือกนักเรียน MBA มองหา “เขา Value เรื่องนี้มาก เพราะตอนที่เราไปเรียนจริง เขาจะไม่ให้เราอยู่กับคนชาติเดียวกันเลย ซึ่งเขาอ้างอิงมาจากงานวิจัยที่ว่า ถ้าอยู่เฉพาะกับคนชาติเดียวกันจะไม่ได้เรียนรู้เท่ากับอยู่กับคนที่มาจากคนละวัฒนธรรม การที่เรามีประสบการณ์ร่วมงานกับคนต่างชาติมาก่อนจึงช่วยได้เยอะเลย” 

เพราะทำงานให้ได้ ให้เสร็จ จึงประสบความสำเร็จ 

เมื่อถามถึงสิ่งที่บอสทำเป็นพิเศษจนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานขนาดนี้ เขาบอกตรงๆ เลยว่าไม่มีหรอก

“เราว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เราทำเป็นพิเศษ แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรต้องทำเป็นปกติอยู่แล้ว คือถ้าได้รับงานอะไรมา ก็ต้องทำให้ได้ ต้องทำให้เสร็จ” 

แต่เมื่อเปลี่ยนมาถามถึงสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากการทำงานที่ Bluebik บอสบอกว่ามีหลายอย่าง

“ข้อแรกคือเรื่อง Prioritization งานที่นี่เยอะและหลากหลาย เราต้องจัดลำดับความสำคัญของงานให้ได้ว่าอันไหนมีความเสี่ยง ต้องรีบทำ อันไหนไม่ต้องไปยุ่งกับมันเลย เสียเวลา ซึ่งทักษะนี้เป็นสิ่งที่เราซึมซับจากลูกค้าที่เป็นผู้บริหารเก่งๆ เหมือนกันนะ คือมันไม่ใช่ทักษะที่เราได้จากตัวงานเท่านั้น แต่เป็นทักษะที่ได้จากการได้เจอลูกค้าระดับ High Level ด้วย

“ข้อสองคือ Resilience บางทีต้องทำงานที่ไม่ถนัด ทุกงานที่ได้มาค่อนข้างใหม่ ข้อดีคือเราได้เรียนรู้เต็มที่เลย แต่ข้อเสียคือมันมาพร้อมกับความเครียด บางครั้งเราทำพลาดก็ต้องเรียนรู้ที่จะกลับมายืนให้ได้”

เพราะรู้จักตัวเอง จึงใช้ชีวิตแบบที่ใช่และชอบ

สำหรับใครที่อ่านอยู่และอยากทำงานสาย Consult หรือกระทั่งอยากเรียนต่อ MBA เหมือนกัน บอสมีคำแนะนำให้ว่า อย่าทำเพียงเพราะคิดว่าใครๆ ก็ทำกัน แต่ขอให้รู้จักตัวเองจริงๆ

“ช่วงหลังๆ เราได้สัมภาษณ์น้องๆ เยอะมาก เลยได้เจอคนหลายคนที่มาด้วยความรู้สึกว่า Consultant เป็นงานที่ดี ดูเท่ สามารถย้ายสายงานได้ง่าย แต่จริงๆ คำถามแรกที่ทุกคนต้องถามตัวเองก่อนคือ ทำไมถึงอยากทำ ทำไมเราถึงชอบ เราชอบงานนี้จริงไหม เพราะเราว่าทุกงานมันดีหมด แต่เราต้องหาว่าเราชอบทำมันจริงๆ ไหม  

“การเรียน MBA ก็คล้ายกัน เราว่าบางคนเป็น Consultant แล้วคิดว่าต้องไปเรียนต่อ MBA แต่มันอาจไม่ได้จำเป็นก็ได้ คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณอยากได้อะไรจาก MBA เพราะฝั่งคนที่รับสมัครเขาก็อยากได้คนที่รู้ว่าจะมาเอาอะไรจากเขาไป แล้วจะเอาสิ่งที่ได้นั้นไปต่อยอดอย่างไรต่อ” ถ้าใครรู้จักตัวเองแน่ชัดแล้วแบบที่บอสว่า Bluebik ก็พร้อมเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ให้คุณ! ดูตำแหน่งงานที่กำลังเปิดรับได้ที่ https://bluebik.com/career และส่งอีเมลมาหาเราได้เลย!