
เมื่อองค์กรต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการปรับกลยุทธ์ การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน หรือการทรานส์ฟอร์มธุรกิจให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล การตัดสินใจเลือกวิธีการแก้ปัญหามักจะตกอยู่ระหว่างสองทางเลือกหลัก การจ้าง ที่ปรึกษาธุรกิจภายนอก หรือการใช้ทีมงานภายในที่มีความรู้ความเข้าใจในองค์กรอยู่แล้ว การเลือกทางเดินที่ถูกต้องจะส่งผลต่อความเร็ว ความแม่นยำ และความคุ้มค่าของการเปลี่ยนแปลง บทความนี้จะเจาะลึกข้อดีและข้อเสียของการเลือกแต่ละทาง เพื่อช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีกลยุทธ์
การใช้ทีมงานภายใน: ความเข้าใจที่ลึกซึ้งและความภักดี
การมอบหมายให้ทีมงานภายในองค์กรเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาหรือริเริ่มโครงการเปลี่ยนแปลงมีข้อได้เปรียบที่สำคัญในด้านความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมและกระบวนการทำงานของบริษัท
ข้อดีของการใช้ทีมงานภายใน:
- ความเข้าใจในองค์กร: ทีมงานภายในมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการทำงาน จุดอ่อน จุดแข็ง และประวัติความเป็นมาขององค์กรอย่างลึกซึ้ง ทำให้การนำเสนอโซลูชั่นมีความสอดคล้องกับสภาพจริง
- ต้นทุนที่มองเห็นได้ชัดเจน: ค่าใช้จ่ายหลักคือเงินเดือนและสวัสดิการของพนักงาน ซึ่งสามารถควบคุมและประเมินได้ง่ายกว่าค่าจ้างของบริษัทที่ปรึกษา
- ความภักดีและความต่อเนื่อง: พนักงานจะยังคงอยู่กับองค์กรหลังจากโครงการสิ้นสุดลง ทำให้การถ่ายทอดความรู้และการดูแลรักษาโซลูชั่นใหม่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
- เพิ่มศักยภาพบุคลากร: การให้พนักงานมีส่วนร่วมในโครงการสำคัญเป็นการลงทุนในการพัฒนาทักษะและความสามารถของพนักงานโดยตรง
ข้อเสียของการใช้ทีมงานภายใน:
- มุมมองที่จำกัด (Tunnel Vision): ทีมงานภายในอาจยึดติดกับวิธีการเดิมๆ หรือถูกจำกัดด้วยมุมมองจากภายใน ทำให้มองไม่เห็นโอกาสใหม่ๆ หรือทางออกที่นอกกรอบ
- ขาดเวลาและทรัพยากร: พนักงานต้องทำงานประจำควบคู่ไปกับโครงการเปลี่ยนแปลง ทำให้ประสิทธิภาพในการดำเนินโครงการลดลงและอาจเกิดความล่าช้าได้
- ขาดความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง: สำหรับปัญหาที่มีความซับซ้อนสูง เช่น การวางกลยุทธ์ดิจิทัล หรือการเข้าสู่ตลาดใหม่ ทีมงานภายในอาจขาดทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่จำเป็น
- ปัญหาทางการเมืองภายใน: การเปลี่ยนแปลงอาจถูกต่อต้านหรือถูกบิดเบือนเนื่องจากความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือการเมืองภายในองค์กร
การจ้างที่ปรึกษาธุรกิจ: มุมมองใหม่และความเชี่ยวชาญระดับโลก
ที่ปรึกษาธุรกิจ คือผู้ที่ถูกจ้างเข้ามาเพื่อนำความเชี่ยวชาญและมุมมองที่เป็นกลางจากภายนอกมาใช้ในการแก้ไขปัญหาขององค์กร การลงทุนนี้มักจะมาพร้อมกับความคาดหวังในการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและแม่นยำ
ข้อดีของการจ้างที่ปรึกษาธุรกิจ:
- ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Expertise): บริษัทที่ปรึกษามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงในการแก้ไขปัญหาเดียวกันนี้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้สามารถนำโซลูชั่นที่ผ่านการพิสูจน์แล้วมาประยุกต์ใช้ได้ทันที
- ความเป็นกลาง (Objectivity): ที่ปรึกษาไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับปัญหาหรือความขัดแย้งภายในองค์กร ทำให้สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างตรงไปตรงมาและนำเสนอแนวทางแก้ไขที่เที่ยงธรรม
- ความเร็วในการดำเนินการ: ที่ปรึกษาสามารถทุ่มเทเวลาและทรัพยากรทั้งหมดให้กับโครงการได้อย่างเต็มที่ ทำให้โครงการสามารถดำเนินการได้รวดเร็วกว่าการใช้ทีมงานภายใน
- การเข้าถึงเครื่องมือและเทคนิคใหม่ๆ: ที่ปรึกษามักจะนำเครื่องมือวิเคราะห์ (Frameworks) และเทคนิคการแก้ปัญหาที่ทันสมัยระดับโลกมาใช้
ข้อเสียของการจ้างที่ปรึกษาธุรกิจ:
- ต้นทุนที่สูง: ค่าจ้างของบริษัทที่ปรึกษามืออาชีพมักมีราคาสูง ซึ่งอาจไม่คุ้มค่าหากปัญหาที่แก้ไขไม่ได้สร้างผลตอบแทนที่สูงตามมา
- ขาดความเข้าใจในวัฒนธรรมองค์กร: ที่ปรึกษาอาจต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจวัฒนธรรมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในองค์กร ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในการนำแผนไปปฏิบัติ
- การพึ่งพา (Dependency): หากไม่มีการถ่ายทอดความรู้ที่ดี องค์กรอาจต้องพึ่งพาที่ปรึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาสิ่งที่สร้างขึ้น
- ผลลัพธ์ที่ไม่ยั่งยืน: หากการแก้ไขเน้นที่ “การติดตั้ง” ระบบใหม่โดยที่ทีมงานภายในไม่ได้ “เรียนรู้” วิธีการดูแล การเปลี่ยนแปลงนั้นก็อาจอยู่ได้ไม่นาน
สรุป: การเลือกทางเลือกที่ชาญฉลาดที่สุด
การเลือกระหว่างการใช้ทีมงานภายในและการจ้างที่ปรึกษาธุรกิจ ควรขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหาและเป้าหมายขององค์กร:
| สถานการณ์ | ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด | เหตุผล |
| ปัญหาซับซ้อน ต้องการความรู้ใหม่ | ที่ปรึกษาธุรกิจ | เพื่อให้ได้มุมมองใหม่ๆ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เร่งด่วน |
| การปรับปรุงกระบวนการเล็กน้อย | ทีมงานภายใน | เพื่อรักษาความต่อเนื่องและประหยัดต้นทุน |
| การทรานส์ฟอร์มธุรกิจครั้งใหญ่ | การทำงานร่วมกัน (Hybrid) | ใช้ที่ปรึกษานำร่องกลยุทธ์ และให้ทีมงานภายในเป็นผู้รับผิดชอบการปฏิบัติงาน |
การตัดสินใจที่ดีที่สุดคือการสร้างสมดุล โดยใช้จุดแข็งของทั้งสองฝ่าย ใช้ที่ปรึกษาเพื่อวางกลยุทธ์และนำนวัตกรรมเข้ามา และใช้ทีมงานภายใน ในการปฏิบัติงานและสร้างความต่อเนื่องให้การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปอย่างยั่งยืน
Bluebik Group พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน
หากองค์กรของคุณกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนผ่านสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการปรับกลยุทธ์องค์กร การทรานส์ฟอร์มดิจิทัล หรือการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน Bluebik Group คือพันธมิตรที่คุณวางใจได้ ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านกลยุทธ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม Bluebik สามารถช่วยคุณออกแบบแนวทางผสมผสานระหว่างที่ปรึกษาภายนอกและทีมงานภายใน (Hybrid Consulting Model) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้องค์กรของคุณไม่เพียงเปลี่ยนแปลงได้เร็ว แต่ยังเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ทีมของคุณเติบโตไปพร้อมกัน สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bluebik.com/th/
ติดตามทุกเทรนด์ธุรกิจและนวัตกรรมเทคโนโลยีไปกับเรา
Source:
- Addison Group – Top 8 reasons to hire a consultant
- Experience Integrators – Why Do Organisations Hire Management Consultants?
- Coursera – What Does a Consultant Do?
- McKinsey & Company – A new approach to organizational transformation
- Forbes – The Pros And Cons Of Hiring External Consultants
- Gartner – Build vs Buy vs Partner: How to Decide the Right Approach to Business Change