การตัดสินใจนำระบบ SAP เข้ามาใช้ในองค์กรถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่และเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการเติบโตในยุคดิจิทัล SAP เป็นระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ที่ซับซ้อนและครอบคลุมฟังก์ชันการทำงานแทบทุกส่วนของธุรกิจ ตั้งแต่การเงิน การผลิต ไปจนถึงการขายและการบริหารทรัพยากรบุคคล อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่แท้จริงคือการเลือกโมดูล (Module) ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณ บทความนี้จะเจาะลึกวิธีการประเมินและเลือกโมดูล SAP เพื่อให้องค์กรของคุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง

ทำความเข้าใจโครงสร้างหลักของระบบ SAP

ระบบ SAP ถูกออกแบบมาให้ทำงานแบบบูรณาการ (Integrated) โดยแบ่งการทำงานออกเป็นโมดูลย่อยๆ แต่ละโมดูลจะรับผิดชอบกระบวนการทางธุรกิจที่แตกต่างกัน แต่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้แบบเรียลไทม์ โมดูลหลักๆ ที่ธุรกิจส่วนใหญ่นิยมใช้ประกอบด้วย:

1. โมดูลด้านการเงินและการบัญชี (Finance and Controlling – FI/CO)

โมดูลนี้ถือเป็นรากฐานของทุกธุรกิจ โดยจัดการกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงินทั้งหมด เช่น การบัญชีแยกประเภท (General Ledger), บัญชีเจ้าหนี้ (Accounts Payable), บัญชีลูกหนี้ (Accounts Receivable) และการบริหารสินทรัพย์ (Asset Accounting) ส่วนโมดูล CO จะมุ่งเน้นไปที่การวางแผนต้นทุน การควบคุมงบประมาณ และการวิเคราะห์ผลกำไร

2. โมดูลด้านการบริหารวัสดุ (Materials Management – MM)

โมดูล MM จัดการกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหา (Procurement) และการบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory Management) ตั้งแต่การสร้างใบสั่งซื้อ การรับสินค้า ไปจนถึงการจัดการคลังสินค้าและประเมินซัพพลายเออร์ โมดูลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจที่มีกิจกรรมการผลิตหรือการค้าปลีก

3. โมดูลด้านการขายและการกระจายสินค้า (Sales and Distribution – SD)

โมดูล SD ดูแลกระบวนการตั้งแต่การรับคำสั่งซื้อของลูกค้า การจัดทำเอกสารการขาย การตรวจสอบสินค้าคงคลัง การขนส่งสินค้า ไปจนถึงการออกใบแจ้งหนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าคำสั่งซื้อของลูกค้าจะถูกดำเนินการอย่างถูกต้องและทันเวลา

4. โมดูลด้านการวางแผนการผลิต (Production Planning – PP)

โมดูล PP เป็นหัวใจสำคัญสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม จัดการกระบวนการตั้งแต่การพยากรณ์ความต้องการ การกำหนดตารางการผลิต การวางแผนความต้องการวัสดุ (MRP) และการควบคุมการผลิต (Shop Floor Control)

5. โมดูลด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (Human Resources – HR/HCM)

โมดูลนี้จัดการกิจกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน เช่น การจัดการข้อมูลบุคลากร การบริหารเงินเดือน (Payroll) การบริหารเวลาเข้า-ออก และการพัฒนาบุคลากร

วิธีประเมินความต้องการและเลือกโมดูลที่เหมาะสม

การเลือกโมดูล SAP ไม่ใช่แค่การเลือกโมดูลหลักๆ แต่ต้องเป็นการวิเคราะห์อย่างละเอียดว่าโมดูลใดที่จะสามารถแก้ปัญหาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างแท้จริง

1. วิเคราะห์กระบวนการทางธุรกิจหลัก (Core Business Processes)

• ระบุจุดคอขวด: พิจารณาว่ากระบวนการใดในปัจจุบันที่ทำให้เกิดความล่าช้า สูญเสียต้นทุน หรือเกิดข้อผิดพลาดมากที่สุด เช่น หากปัญหาหลักคือการควบคุมต้นทุนและการจัดซื้อ ก็ควรให้ความสำคัญกับโมดูล MM และ CO
• กำหนดความสำคัญ: จัดลำดับความสำคัญของฟังก์ชันที่ต้องปรับปรุงก่อน-หลัง ตัวอย่างเช่น องค์กรที่เน้นการผลิตต้องให้ความสำคัญกับ PP และ MM เป็นอันดับแรก ขณะที่องค์กรด้านบริการอาจให้ความสำคัญกับ FI/CO และ HR มากกว่า

2. การประเมินความซับซ้อนและงบประมาณ

• ความจำเป็นในการปรับแต่ง (Customization): โมดูลบางตัวอาจต้องมีการปรับแต่ง (Customize) สูงเพื่อให้เข้ากับกระบวนการทำงานเฉพาะขององค์กร การปรับแต่งที่มากเกินไปจะทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น และยุ่งยากในการอัปเกรดในอนาคต ดังนั้นควรเลือกโมดูลที่สามารถใช้ฟังก์ชันมาตรฐานได้มากที่สุด
• งบประมาณและระยะเวลา: โมดูลที่มีฟังก์ชันซับซ้อนและเชื่อมโยงหลายหน่วยงาน เช่น FI/CO และ SD อาจต้องใช้งบประมาณและเวลาในการติดตั้งที่สูงกว่า ควรพิจารณาเลือกติดตั้งโมดูลที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุดก่อน

3. พิจารณาโมดูลเสริมและนวัตกรรมใหม่ๆ

SAP มีการพัฒนาโมดูลใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น:

• SAP S/4HANA: แพลตฟอร์ม ERP เจเนอเรชั่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยหน่วยความจำ (In-Memory) ซึ่งช่วยให้การประมวลผลข้อมูลเร็วขึ้นอย่างมาก ควรพิจารณาหากองค์กรต้องการความเร็วในการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
• SAP Ariba: สำหรับการจัดการการจัดซื้อจัดหาและซัพพลายเออร์แบบครบวงจรผ่านระบบ Cloud
• SAP SuccessFactors: สำหรับการบริหารทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจรบนระบบ Cloud ซึ่งตอบโจทย์การทำงานในยุคปัจจุบัน

การเลือกโมดูลจึงไม่ใช่แค่การนำฟังก์ชันพื้นฐานมาใช้ แต่เป็นการเลือกโซลูชั่นที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและเติบโตในอนาคตได้ด้วย

สรุป: การบูรณาการคือหัวใจสำคัญ

ความคุ้มค่าของการลงทุนในระบบ SAP ไม่ได้อยู่ที่จำนวนโมดูลที่คุณเลือก แต่เป็นความสามารถในการบูรณาการโมดูลเหล่านั้นเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจทั้งหมดอย่างราบรื่น การเลือกโมดูลที่เหมาะสมจะช่วยให้ข้อมูลไหลเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อนของการทำงาน และช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน (Real-time Data)

Bluebik Group พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน

สำหรับองค์กรที่ต้องการนำระบบ SAP มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดรับกับเป้าหมายธุรกิจในระยะยาว การมีที่ปรึกษาที่เข้าใจทั้งเทคโนโลยีและบริบทธุรกิจอย่างลึกซึ้งคือกุญแจสำคัญ Bluebik Group คือผู้นำด้านการให้คำปรึกษาด้าน Digital Transformation, ERP Implementation และ SAP Advisory ที่พร้อมสนับสนุนการเลือกโมดูล SAP ที่เหมาะสม วางแผนการใช้งานอย่างเป็นระบบ รวมถึงวิเคราะห์และปรับกระบวนการทางธุรกิจเพื่อให้การลงทุนใน SAP เกิดความคุ้มค่าสูงสุด สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bluebik.com/th/

 

ติดตามทุกเทรนด์ธุรกิจและนวัตกรรมเทคโนโลยีไปกับเรา

 

Source:

• SAP Official Website – ERP Modules Overview
• Key features of SAP ERP software
• How to choose the right HCM solution for your business