การขยายธุรกิจบนโลกดิจิทัลยิ่งมากยิ่งเสี่ยง ธุรกิจจึงต้องพร้อมจัดการภัยคุกคามที่แฝงตัวเข้ามาแบบไม่รู้ตัว
สาระสำคัญ:
- การประเมินความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Assessment) กลยุทธ์รักษาความปลอดภัยเชิงรุกค้นหาจุดอ่อนและภัยคุกคามที่ซ่อนตัวในระบบ ยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์องค์กรไปอีกขั้น
- การประเมินความปลอดภัย ตัวช่วยธุรกิจวางแผนลงทุนด้านความปลอดภัยให้คุ้มค่า พร้อมรองรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยไซเบอร์
- การประเมินความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว พร้อมรักษาความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

พัฒนาการของเทคโนโลยีเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจอย่างรวดเร็ว นำมาซึ่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการเติบโต แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเสี่ยงทางไซเบอร์ที่ธุรกิจไม่อาจมองข้ามได้ จากการประเมินของ Statista ระบุว่าความเสียหายทางการเงินจากภัยคุกคามไซเบอร์จะสูงถึง 15.63 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2572 และปีนี้การโจมตีไซเบอร์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 105% เมื่อเทียบกับปี 2563 ตอกย้ำให้เห็นว่าภัยคุกคามไซเบอร์เป็นความท้าทายที่องค์กรธุรกิจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ในโลกดิจิทัลที่เชื่อมต่อกันไร้ขีดจำกัด สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ว่าองค์กรจะรับมือกับภัยไซเบอร์อย่างไร แต่หมายรวมถึง ‘ธุรกิจจะถูกโจมตีเมื่อไร’ กลยุทธ์การตั้งรับจึงไม่เพียงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นและทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องเมื่อภัยมา ด้วยเหตุนี้ การปรับกลยุทธ์ความปลอดภัยไซเบอร์ให้มีทั้งแนวปฏิบัติเชิงรับและรุก จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ระบบความปลอดภัยขององค์กรยุคใหม่แข็งแกร่งขึ้น ผ่านการประเมินความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Assessment) ที่ครอบคลุมและสอดรับกับเป้าหมายการดำเนินงาน บรรเทาความเสี่ยงและเสริมสร้างขีดความสามารถในการกู้คืนหรือฟื้นตัวให้กับเครือข่ายและข้อมูล
ทำไม Cybersecurity Assessment ถึงสำคัญกับธุรกิจที่อยากเติบโตอย่างยั่งยืน
- การจัดสรรทรัพยากรเชิงกลยุทธ์: การประเมินความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้องค์กรสามารถจัดลำดับความสำคัญของทรัพยากรและระบุช่องโหว่บนระบบที่มีอยู่และอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ทำให้องค์กรสามารถวางแผนดูแลความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ โดยพิจารณาจากลำดับความสำคัญและความเสี่ยง เพื่อวางแผนการลงทุนด้านความปลอดภัยไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ Cybersecurity Assessment อย่างสม่ำเสมอยังเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์การขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล
- การปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง: ปัจจุบัน ประเทศต่าง ๆ และกลุ่มอุตสาหกรรมมีการบังคับใช้กฎหมายหรือกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ดังนั้น การประเมินความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ธุรกิจรับรู้และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น อีกทั้งการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยอย่างละเอียดเป็นสิ่งสำคัญ ในกระบวนการตรวจสอบ ลดความเสี่ยงจากค่าปรับหรือผลกระทบทางกฎหมาย นอกจากนี้ การประเมินอย่างต่อเนื่องยังช่วยให้องค์กรเห็นถึงช่องโหว่ระหว่างข้อกฎหมายหรือกฎระเบียบและแนวปฏิบัติขององค์กร ทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวให้ทันกับกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงและปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
ภูมิทัศน์ภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลง: การรับมือกับความเสี่ยงยุคใหม่
ความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามไซเบอร์จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2568 เป็นผลจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีและการขยายตัวของโลกดิจิทัล ที่สนับสนุนให้การเพิ่มจำนวนอาชญากรไซเบอร์ องค์กรธุรกิจกำลังเผชิญกับความเสี่ยงในระดับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้จำเป็นต้องความเข้าใจและตระหนักถึงเทรนด์ใหม่ รวมถึงแนวปฏิบัติเชิงรุกเพื่อบรรเทาความเสี่ยง

1. เทรนด์ภัยคุกคามไซเบอร์ใหม่มาแรง
- การโจมตีด้วย AI ขั้นสูง: ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence – AI กำลังปฏิวัติการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ที่ทำให้การโจมตีมีความซับซ้อน แม่นยำและอัตโนมัติ เพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ โดย AI สามารถปรับตัวและรับมือกับมาตรการป้องกันได้ดีขึ้น สนับสนุนการสร้างแคมเปญหลอกลวงทางไซเบอร์เฉพาะบุคคลได้ ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี Deepfake ที่กำลังระบาดอย่างหนัก
2. ความท้าทายเดิมยังคงอยู่
- ปัจจัยความผิดพลาดจากมนุษย์ (Human Error): แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใด แต่ความผิดพลาดของมนุษย์ยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ จากการศึกษาของ IBM พบว่าในปี 2564 การโจมตีไซเบอร์มากกว่า 90% เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ สะท้อนผ่านความนิยมและความสำเร็จจากการใช้เทคนิค Social Engineering ในการโจมตีเป้าหมายของแฮกเกอร์
- การเรียกค่าไถ่ไซเบอร์ (Ransomware): การเรียกค่าไถ่ไซเบอร์ได้พัฒนาและทำได้มากกว่าแค่การเข้ารหัสข้อมูล และเข้าโจมตีระบบปฏิบัติที่สำคัญ ปัจจุบันกลุ่มอาชญากรไซเบอร์พัฒนา Ransomware-as-a-service บริการที่ทำให้แฮกเกอร์มือใหม่สามารถเข้ามาเข้าถึงบริการหรือเครื่องมือได้ง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกก็สามารถเปิดการโจมตีที่รุนแรงได้ กดดันให้องค์กรธุรกิจต้องเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองต่อเหตุการณ์และมีกลยุทธ์ในการกู้คืนข้อมูลหรือเครือข่าย
กรอบการทำงานสู่ความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยไซเบอร์
⏩ Cybersecurity Assessment: เสริมแกร่งรากฐานความปลอดภัยไซเบอร์องค์กร
การประเมินความปลอดภัยไซเบอร์อย่างสม่ำเสมอและครอบคลุม เพื่อระบุและจัดการช่องโหว่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในยุคที่องค์กรล้วนพึ่งพาเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนกระบวนการทางธุรกิจ โดย 3 ส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับรากฐานความปลอดภัย ได้แก่
- โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure): วิเคราะห์และการกำหนดค่าต่าง ๆ บนเครือข่ายและระบบนิเวศเพื่อระบุจุดอ่อนและช่องโหว่ทางเทคนิค
- กระบวนการ (Process): ประเมินการจัดการข้อมูล ควบคุมการเข้าถึงและมาตรฐานหรือแนวปฏิบัติการตอบสนองเมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ
- บุคลากร (People): ประเมินความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามไซเบอร์ของพนักงานและขีดความสามารถในการฟื้นฟูหรือู้คืนระบบหรือข้อมูลหลังเหตุการณ์โจมตีองค์กร

⏩ การจัดลำดับความสำคัญของทรัพยากรอย่างมีกลยุทธ์
องค์กรควรจัดสรรการลงทุนโดยให้เริ่มจากส่วนที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ ผ่านกรอบการทำงานดังต่อไปนี้
1. การจัดหมวดหมู่ความเสี่ยง: การระบุและจัดลำดับความสำคัญความเสี่ยงภัยคุกคามที่จะสร้างผลกระทบสูงสุดให้องค์กรก่อน
2. วิเคราะห์ต้นทุน-ประโยชน์: พิจารณาอย่างรอบคอบระหว่างการลงทุนด้านความปลอดภัยและความสูญเสียหรือผลกระทบจากการโจมตี
3. การวัดผลการลงทุนด้านความปลอดภัยไซเบอร์: ประเมินผลและวัดประสิทธิภาพโครงการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างสม่ำเสมอ
⏩ การปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎระเบียบ
ปัจจุบันองค์กรธุรกิจจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยและกฎระเบียบ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและป้องกันความเสียหายจากการละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ
- Personal Data Protection Act – PDPA: พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- General Data Protection Regulation – GDPR: กฎหมายปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิความเป็นส่วนตัวของยุโรป
- ISO 27001: มาตรฐานสากลด้านการจัดการความมั่นคงระบบสารสนเทศขององค์กร
⏩ การเตรียมความพร้อมรับมือเหตุการณ์โจมตี
พัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและการแข่งขันอย่างดุเดือดในโลกธุรกิจ ส่งผลให้มาตรการป้องกันการโจมตีไซเบอร์เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ที่จะรักษาขีดความสามารถในดำเนินธุรกิจและความน่าเชื่อถือ ปัจจุบันธุรกิจต้องสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์คุกคามต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพได้ผ่านกรอบการดำเนินงาน ดังนี้
- การกำหนดมาตรฐานหรือกระบวนการตรวจจับและจำกัดขอบเขตความเสียหายเมื่อเกิดเหตุ
- กลยุทธ์รักษาความต่อเนื่องในกระบวนการดำเนินธุรกิจและการกู้ระบบหรือข้อมูลคืนจากภัยพิบัติหรือการโจมตีไซเบอร์
- การสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและแผนปรับปรุงหลังเกิดเหตุ
ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์
ด้วยโซลูชันที่ บลูบิล ไททันส์ ออกแบบเฉพาะสำหรับธุรกิจคุณ
โซลูชันความปลอดภัยแบบครบวงจร: เราผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยกับความเชี่ยวชาญเพื่อส่งมอบ:
- วางกลยุทธ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
- ระบบการตรวจจับและการตอบสนองต่อภัยคุกคามขั้นสูง
- การตรวจสอบล่วงหน้าและวางแผนการฝึกอบรมให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร
- การประเมินและทดสอบเจาะระบบ
โดยบริการของ บลูบิค ไททันส์ครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ
- อุตสาหกรรมการเงิน: การปฏิบัติตามกฎระเบียบ กฎหมายและการป้องกันการฉ้อโกง
- อุตสาหกรรมสุขภาพ: การปกป้องข้อมูลผู้ป่วย
- อุตสาหกรรมการผลิต: การรักษาขีดความสามารถในการฟื้นตัวหรือกู้คืนระบบซัพพลายเชน
- อุตสาหกรรมค้าปลีก: การรักษาความปลอดภัยในกระบวนการชำระเงิน เป็นต้น
ในโลกที่ความเสี่ยงทางไซเบอร์กำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อน ความพร้อมในการตอบสนองต่อภัยคุกคามไม่ใช่ทางเลือก—แต่จำเป็นต้องมี ด้วยเหตุนี้ องค์กรยุคใหม่หลายแห่งจัดสรรเงินลงทุนด้าน Cybersecurity Assessment และการปรับใช้กลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยเชิงรุก เพื่อปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลและสร้างรากฐานความไว้น่าเชื่อถือ รวมถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนได้อีกด้วย
บลูบิค ไททันส์ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในนำพาองค์กรธุรกิจก้าวข้ามความซับซ้อนและความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ด้วยการยกระดับขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายดิจิทัลขององค์กร สำหรับท่านใดที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
✉ [email protected]
☎ 02-636-7011