fbpx
บทความ 11 ตุลาคม 2019

แนะธุรกิจธนาคารมุ่งสู่ Lifestyle Banking คว้า “เวลา” จากผู้บริโภคไว้นานที่สุดรับมือการแข่งขันเข้มข้นในอีก 5 ปี

ในอีก 5 ปีข้างหน้าการแข่งขันในกลุ่มธุรกิจธนาคารมีแนวโน้มแข่งขันดุเดือดมากขึ้น เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่เสมอ และยังมีผู้เล่นนอกวงการฯโดดเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งการตลาด แนะสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่การแย่งเงินจากลูกค้า แต่ต้องชิง”เวลา” ให้ลูกค้าอยู่กับธุรกิจได้นานที่สุด ต้องเร่งปรับตัวเป็น Lifestyle Banking ประตูแห่งการเข้าถึงผู้บริโภค เผยจากประสบการณ์เข้าไปเป็นตัวเชื่อมระหว่างธนาคารกับพันธมิตร เพื่อร่วมสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการออกแบบ Customer Experience และ Engagement Model สู่ยุคใหม่ของธุรกิจธนาคาร เพื่อเปลี่ยนผ่านจาก Traditional Banking ไปเป็น Lifestyle Banking อย่างเต็มรูปแบบ

การแข่งขันของวงการธนาคารจะดุเดือดขึ้นภายในระยะเวลา 5 ปีนี้ หรือภายในปี 2567 จากปัจจัยที่ผู้ประกอบการเริ่มมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้กับผู้บริโภค เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่เสมอ รวมถึงมีผู้เล่นนอกอุตสาหกรรมเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งการตลาด  อาทิ Apple ที่ทำในรูปแบบ virtual credit card, line pay wallet (emoney) True money, Line pay และ Airpay ในไทย รวมถึง WeChatPay Alipay ในจีน

ยุคปัจจุบัน สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจธนาคาร ไม่ใช่แค่การแย่งเงินจากลูกค้า แต่คือการแย่งส่วนแบ่งเวลาของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าอยู่กับธุรกิจนานขึ้น เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีจำกัดสำหรับผู้บริโภคธุรกิจส่วนใหญ่จึงเปลี่ยนจากการแย่งเงินในกระเป๋าลูกค้าตรง ๆ มาเป็นการแย่งเวลาของลูกค้าให้อยู่กับธุรกิจนานขึ้น เพื่อหาโอกาสในการสร้างรายได้ และการเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อ รวมทั้งต้องทำตัวเป็นแพลตฟอร์มให้พันธมิตรรายอื่น ๆ ที่ต้องเข้าถึงลูกค้าผ่านธุรกิจเหล่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ไลน์ ที่ให้ลูกค้าใช้บริการฟรี จนกลายเป็นแพลตฟอร์มยอดฮิตที่สามารถอยู่กับลูกค้าเกือบตลอดเวลา จนธุรกิจอื่น ๆ ต้องจ่ายเงินให้ไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเหล่านั้น ซึ่งไลน์มีข้อได้เปรียบเรื่องส่วนแบ่งเวลาของลูกค้าที่เด่นชัด อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ Netflix แพลตฟอร์มที่ให้บริการความบันเทิงลูกค้าชนิดส่งตรงถึงบ้าน ประสบความสำเร็จยากมากในการแย่งส่วนแบ่งเวลาของลูกค้า ทำให้ Netflix สามารถสร้างความภักดีต่อบริการ และเก็บข้อมูลลูกค้าได้จำนวนมหาศาลเพื่อมาต่อยอดยกระดับบริการได้ตรงตามความต้องการลูกค้าได้แบบรายบุคคล

จากประสบการณ์ทำงานของ บลูบิค กรุ๊ป กับธนาคารชั้นนำหลายธนาคารในไทยเพื่อปรับบทบาทตัวเองให้มีความเป็น Lifestyle Banking  จากความเป็น Traditional Banking หรือ (คำจำกัดความภาษาไทย) ด้วยการเข้าไปช่วยในการเป็นตัวเชื่อมระหว่างธนาคารกับพันธมิตร ให้คำปรึกษาและทำงานร่วมกันในเรื่องของ Digital disruption เพื่อร่วมสร้างผลิตภัณฑ์และบริการอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการออกแบบ Customer Experience ให้มีความกลมกลืนกับการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น การออกแบบหน้าตาและ Design ของ Digital Banking เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในความรู้สึกของผู้บริโภคธนาคาร เป็นเรื่องยุ่งยากและต้องใช้เวลานานในการทำธุรกรรม 

หากหน้าตา Design ของ Digital Banking ไม่น่าสนใจ ใช้งานยาก จะยิ่งทำให้ผู้บริโภคไม่อยากเลือกใช้งาน นอกจากนี้ในส่วนการสร้าง Engagement Model เพื่อตอบรับกับธุรกิจธนาคารยุคใหม่ จากประสบการณ์ทำงานร่วมกับธนาคารชั้นการสร้างบริการจำพวก E-Payment เพื่อเป็นประตูสู่ Lifestyle banking มีความยากในส่วนระบบ Payment ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลาดเวลาจนทำให้ธนาคารหลายๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาเข้ามาเเร่งการนำบริการสู่ตลาดเป็นเจ้าแรกๆ เพราะการออกช้านั้นเป็นการสูญเสียโอกาสอย่างมหาศาล

อย่างไรก็ตาม การพัฒนากระบวนการและแพลทฟอร์มเพื่อให้รองรับการเชื่อมต่อกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อสร้างความหลากหลายของบริการและการเข้าถึง Lifestyle โดยตรงมากขึ้น เพราะธนาคารคงไม่สามารถทำทุกอย่างเองได้และไม่ควรเสียเวลากับการทำงานตรงนี้เอง เพราะจะทำให้ขาดความรวดเร็วในการแข่งขัน การให้บริการด้าน Lifestyle หลายๆอย่างไม่ได้เป็น Core business ของธนาคาร ที่ปรึกษาอย่าง บลูบิค กรุ๊ป จึงเป็นส่วนเสริมที่เข้าไปช่วยในการเป็นตัวเชื่อมระหว่างธนาคารกับพันธมิตรเพื่อร่วมกันสร้างผลิตภัณฑ์และบริการอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการบริหารจัดการที่ไม่ดีจะทำให้ความร่วมมือระหว่างธนาคารและพันธมิตรไม่สามารถแสดงศักยภาพในการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเต็มที่