fbpx
บทความ 16 กันยายน 2024

ทำไมถนนธุรกิจทุกสายต้องมุ่งสู่ Enterprise AI?

Artificial Intelligence – AI กำลังพาโลกเราเข้าสู่ยุคการตื่นรู้ทางนวัตกรรม เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 14 – 17 ที่เรียกว่ายุคเรอเนซองซ์ (Renaissance) หรือยุคแห่งการตื่นรู้ทางปัญญา เป็นจุดกำเนิดความรู้และความเปลี่ยนแปลงมากมายของโลกตั้งแต่ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์จนถึงวิศวกรรมศาสตร์ มีบุคคลสำคัญของโลกเกิดขึ้นในยุคนี้มากมาย อาทิ ลีโอนาร์โด ดา วินชี, อันเดรียส เวซาลิอุสและนิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส เป็นต้น 

ปัจจุบันโลกเรากำลังก้าวเข้าสู่ปฐมบทของ AI แทบทุกกระบวนการทางองค์กรธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล โดยมี AI เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน ทำให้เกิดกระแสความต้องการใช้งาน AI ในกระบวนการทำงานขององค์กรและการพัฒนาโมเดลสำหรับ Enterprise AI เพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาอย่างมีนัย สำหรับองค์กรที่ยังไม่ขยับแน่นอนว่าวันนี้ผลกระทบอาจยังเห็นไม่ชัด  แต่ในวันที่คู่แข่งสามารถวิ่งได้เร็วกว่าในอนาคตก็อาจสายเกินแก้ เช่นเดียวกับหลายธุรกิจชั้นนำในอดีตที่เคยถูกดิสรัปต์และหายไปอย่างน่าเสียดาย

ความสำคัญของ Enterprise AI ต่อองค์กรธุรกิจ

ปัจจุบันองค์กรธุรกิจจำเป็นต้องปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กระบวนการดำเนินงานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการใช้ประโยชน์จาก Big Data ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้าที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ 

ปริมาณและความซับซ้อนของข้อมูลในองค์กรยุคใหม่ ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องตรวจสอบและประเมินแนวทางทั้งหมดที่มีอยู่และหาโซลูชันที่สามารถเข้ามาบริหารจัดการอุปสรรคและเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง ซึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาตอบโจทย์นี้ คือ Enterprise AI ที่สามารถดึงข้อมูลเชิงลึกและการเรียนรู้รูปแบบ (Pattern) ที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลจำนวนมหาศาล รวมถึงวิเคราะห์แนวโน้มและโอกาสต่าง ๆ ที่เทคโนโลยีอื่นไม่สามารถทำได้    

ยิ่งไปกว่านั้น AI-Powered Systems (ระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI) ยังสนับสนุนกระบวนการตัดสินใจด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงทางการตลาดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจุดนี้เองทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการธุรกิจในยามที่ภาวะตลาดมีความผันผวน กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพและสร้างข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้

จับตากระแส Enterprise AI ในธุรกิจ 

จากการสำรวจของ Servicenow ในหัวข้อ ‘ผลกระทบของ AI: ดัชนีความพร้อมขององค์กรประจำปี 2024’ ระบุว่า ปัจจุบันกระแสการปรับใช้ AI ในองค์กรยังอยู่ในช่วงต้น ซึ่งการบูรณาการขีดความสามารถ AI ในองค์กรต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากผู้บริหาร ร้อยละ 81 ของผู้ตอบแบบสอบถามเปิดเผยว่าผู้บริหารส่วนใหญ่พยายามอย่างแข็งขันในการผลักดันการปรับใช้ AI และมีแผนนำ AI มาใช้องค์กรมากขึ้นในอนาคต

วันนี้ AI ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานสำคัญในองค์กรชั้นนำ และแนวโน้มนี้กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โดย Servicenow พบว่า 3 บทบาทหลักของ AI ในองค์กร ได้แก่ 

1) Data Cleaning, Management, Integration, Visualization และ/หรือ Transformation (ร้อยละ 76)
2) Performance Management (ร้อยละ 68)
3) AI-Generated Customer Support Summaries (ร้อยละ 60) เท่ากับ Predictive Analytics (ร้อยละ 60) ตามลำดับ 

ประเด็นที่น่าจับตามมอง คือ 3 อันดับแรกของความต้องการใช้งาน AI ในอีก 3 ปีข้างหน้าขององค์กรชั้นนำทั่วโลก ประกอบด้วย

  1. AI-Generated Customer Support Summaries (ร้อยละ 58) 
  2. Resource Utilization (ร้อยละ 55)
  3. Data Cleaning, Management, Integration, Visualization และ/หรือ Transformation (ร้อยละ54) เท่ากับ Customer Agent Assistant/Customer Self-Service (ร้อยละ 54) 

ข้อดีของ Enterprise AI

การมาถึงของ AI จะกลายเป็นข้อได้เปรียบสำหรับองค์กรที่รู้จักใช้อย่างชาญฉลาด โดยวันนี้เราสรุปข้อดีหลัก ๆ ของ Enterprise AI

  • ยกระดับกระบวนการตัดสินใจ:
    AI สามารถนำเสนอรายละเอียดข้อมูลบางอย่างที่มนุษย์มองข้ามผ่านวิเคราะห์หัวข้อที่ซับซ้อนอย่างเข้มข้น ซึ่งข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำนี้จะช่วยให้ประสิทธิภาพการตัดสินใจทางธุรกิจดีขึ้น ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการความเสี่ยง การจัดสรรทรัพยากรและคาดการณ์ยอดขายในอนาคต  
  • ส่งมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลแก่ลูกค้า:
    AI สามารถสร้างและออกแบบประสบการณ์และบริการที่เหมาะกับลูกค้าเฉพาะรายได้อย่างแม่นยำ ผ่านกระบวนการวิเคราะห์และเรียนรู้ข้อมูล ยกตัวอย่าง Netflix และบริษัทค้าปลีกที่ใช้ระบบอัจฉริยะเรียนรู้รูปแบบการซื้อ ข้อมูลส่วนบุคคลแและชุดข้อมูล ผลสำรวจและวิเคราะห์ขนาดใหญ่ (Extensive Data Sets) เพื่อระบุแนวทางการสร้างความพึงพอใจของลูกค้าแต่ละรายโดยอ้างอิงจากสไตล์ ความสนใจและความต้องการ 
  • ปรับปรุงระบบการสรรหาและรักษาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ:
    การใช้เครื่องมือที่มีระบบ ปฏิบัตการด้วย AI ช่วยปรับปรุงกระบวนการสรรหาพนักงานทำให้องค์กรสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการ อีกทั้งยังช่วยองค์กรประเมินพฤติกรรมของพนักงานเหล่านั้นว่าจะอยู่กับองค์กรโดยเฉลี่ยนานแค่ไหนหลังจากรับเข้าทำงานแล้ว 
  • ระบบการวิจัยและพัฒนาดีขึ้น:
    ระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารเร่งกระบวนการวิจัยและพัฒนา รวมถึงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ด้วยการประเมินผลชุดข้อมูลขนาดใหญ่และการระบุรูปแบบข้อมูล นวัตกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้ทำให้ธุรกิจสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์/บริการใหม่ ๆ รักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน 
  • บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ:
    AI ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้ผ่านการใช้ระบบอัตโนมัติจัดการกับกิจกรรมที่ต้องทำซ้ำซากทุกวัน เช่น ฝ่ายการเงินที่ใช้ระบบ AI-Led Automation เพื่อลดภาระให้กับพนักงานในกระบวนการแจ้งใบราคาสินค้า จัดการค่าใช้จ่ายและจัดทำรายงานทางการเงิน   

แม้การบูรณาการ AI เข้ากับระบบต่าง ๆ ของทั้งองค์กรจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจได้ แต่การผลักดันทั้งหมดอาจล้มเหลวหากขาดการวางกลยุทธ์และแผนการปรับใช้ Enterprise AI ในองค์กรอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการสรรหาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ครอบคลุมทั้งแง่มุมของการวางแผนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและข้อมูลโมเดลที่ตอบโจทย์ รวมถึงความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจ  

‘บลูบิค’ ในฐานะที่ปรึกษาชั้นนำผู้ให้บริการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับแต่ละธุรกิจ การวางรากฐานสถาปัตยกรรมข้อมูลจนถึงการพัฒนาโมเดล AI และ ML ขั้นสูง สามารถรองรับการขยายตัวในอนาคต ทำให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสอดรับกับความต้องการทางธุรกิจของแต่ละองค์กรได้อย่างแท้จริง สำหรับองค์กรที่สนใจสามารถติดต่อขอข้อมูลจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของบลูบิคได้ที่

[email protected] 

☎ 02-636-7011

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก successive.tech, servicenow