fbpx
เรื่องราวของเรา 7 เมษายน 2023

Martin Simpson และประสบการณ์สายเทคแบบ Full-Stack ที่จะพา Bluebik บินให้สูงกว่าที่เคย

ต่อไปนี้คือเรื่องเล่าที่ครอบครัวซิมป์สันเล่าสู่กันฟังด้วยรอยยิ้ม

ตอนเรียนอนุบาล เจ้ามาร์ตินตัวจิ๋วชอบไปโรงเรียนแต่เช้าเพื่อไปช่วยคุณครูเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์

ตอนวันเกิดอายุ 10 ขวบ เด็กชายมาร์ตินได้คอมพิวเตอร์เครื่องแรกเป็นของขวัญ (“วินโดวส์ 3.1 อินเทล” เขายังจำได้อย่างแจ่มชัด) เขาเล่นจนคอมพิวเตอร์พัง แล้วก็หาวิธีซ่อมมันด้วยตัวเอง

เด็กคนอื่นอาจไปห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือการ์ตูนหรือนิยายสนุกๆ แต่มาร์ตินไปห้องสมุดเพื่ออ่านคู่มือการใช้งาน MS-DOS อย่างละเอียด “ผมเป็นคนช่างสงสัย ถ้าอยากรู้อะไรจะอยากรู้ให้สุด” เขาอธิบาย 

ฟาสต์ฟอเวิดมาวันนี้ มาร์ตินคือผู้อำนวยการที่ Bluebik Global ผู้ให้คำปรึกษาและโซลูชันด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันแบบครบวงจร ซึ่งมีออฟฟิศอยู่ที่อังกฤษ เวียดนาม และฮ่องกง รวมถึงมี Technology Center อยู่ที่อินเดีย 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Bluebik Global ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Bluebik เพิ่งเปิดมาได้ราว 1 ปีเท่านั้น และนี่เป็นการออกวิ่งเพียงไม่กี่เมตรแรกของมาร์ตินเพื่อนำเสนอความเชี่ยวชาญของ Bluebik ให้กับลูกค้าระดับโลก “สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ทำคือการออกตัวช้า ถ้าผมต้องการอะไร ผมจะลงมือทำทันที”

แต่ความรวดเร็วไม่ใช่แค่ปัจจัยเดียวสู่ความสำเร็จ แพสชันของมาร์ตินที่มีต่อเทคโนโลยียังมีบทบาทสำคัญ “ผมชอบพัฒนาระบบ โดยเฉพาะระบบที่ซับซ้อน และผมชอบทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยี และจะชอบมากๆ หากมีโอกาสได้พัฒนาระบบที่ซับซ้อนเกินกว่าจะคาดเดาได้”

ด้วยอายุเพียง 16 ปี มาร์ตินเริ่มต้นทำงานแรกในตำแหน่ง Technical Support ที่ ThoughtWorks ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีระดับโลก ช่วงแรกหน้าที่หลักของเขาคือการประกอบและดูแลรักษาแลปทอป รวมถึงติดตั้งซอฟต์แวร์ที่จำเป็นให้กับพนักงานที่เข้ามาใหม่ แม้งานจะสนุกในระดับหนึ่ง แต่ลึกๆ แล้ว มาร์ตินต้องการทำงานที่ซับซ้อนกว่านั้น เขาจึงเริ่มต้นปรับกระบวนการทำงานให้เป็นอัตโนมัติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แน่นอนว่าความคิดริเริ่มนี้ไม่หลุดรอดสายตาของผู้บริหารระดับสูง หนึ่งในนั้นคือ อาเจย์ กอร์ (Ajey Gore) ผู้ตัดสินใจชวนเด็กหนุ่มไฟแรงมาเป็นลูกมือคนพิเศษในโปรเจกต์อื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากความรับผิดชอบเดิม

“เขาสอนผมหลายๆ อย่างที่ผมยังคงใช้อยู่จนทุกวันนี้”​ มาร์ตินพูดถึงอาเจย์ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็น CTO ของ Gojek และตอนนี้กำลังทำงานให้กับ Sequoia Capital ในฐานะ Operating Partner

วิธี “สอน” ของอาเจย์คือการมอบหมายโปรเจกต์ที่ซับซ้อนให้กับมาร์ติน ซึ่งเด็กหนุ่มก็ตกปากรับคำด้วยความตื่นเต้น ในโปรเจกต์หนึ่ง มาร์ตินได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาและอินเดียเพื่อช่วยติดตั้งระบบสื่อสารภายในของ ThoughtWorks จากนั้นรู้ตัวอีกที เขาก็ทำงานเป็นคอนซัลแทนต์ด้านเทคโนโลยี

“ผมคิดว่าอาเจย์มองเห็นคนที่มีทักษะด้านเทคโนโลยี และที่สำคัญคือ คนคนนั้นตื่นเต้นที่จะได้ทำงาน หลายๆ คนอาจทำงานเพราะมันคืองาน แต่บางคนทำงานเพราะมีแพสชันจริงๆ ซึ่งผมเป็นคนประเภทหลัง”

“มีครั้งหนึ่งตอนอยู่ที่ออฟฟิศในบังคาลอร์ อินเดีย เรากำลังติดตั้งระบบสื่อสารภายใน โดยต้องเชื่อมระบบของออฟฟิศเข้ากับเครือข่ายโทรศัพท์ มันมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น ผมกับอาเจย์เลยอยู่โยงที่ออฟฟิศกันถึงตี 5 เพื่อซ่อมมัน ทั้งแยกชิ้นส่วนและทดลองใช้งานสายเคเบิล เอาเข้าจริงเราทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น แต่เราก็ทำเพราะเราสนุกกับงานมาก ปรากฏว่าปัญหานั้นไม่ได้เกิดจากเรา แต่เป็นความผิดพลาดของผู้ให้บริการเครือข่ายที่เชื่อมสายเคเบิลผิด เท่ากับว่าเราเสียเวลาไปเปล่าๆ แต่นั่นแหละ มันทำให้อาเจย์เห็นว่าผมเป็นคนสายเทคที่มีแพสชันในการทำงาน”

หลังออกจาก ThoughtWorks มาร์ตินไปทำงานเป็น Software Developer ที่มอนทรีออล แคนาดา เป็นเวลา 1 ปี แม้ว่าโปรเจกต์นั้นจะถูกพับไป แต่เขาก็สนุกที่ได้ลองทำอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาเข้าใจแง่มุมเชิงธุรกิจของผลิตภัณฑ์ดิจิทัลมากยิ่งขึ้น “Software Developer บางคนยังเข้าใจว่าคงทำเงินได้ง่ายๆ หากสร้างแอปพลิเคชันที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับการตลาดหรือการขายเลย ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด”

เมื่อกลับมาที่อังกฤษมาร์ตินทำงานเป็น System Administrator ให้กับบริษัทแห่งหนึ่งอยู่สักพัก ก่อนจะเริ่มทำงานแบบสัญญารายโปรเจกต์กับบริษัทด้านไอทีและดิจิทัลหลายๆ แห่ง โดยหนึ่งในโปรเจกต์สำคัญที่เขามีส่วนร่วมคือการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลให้กับ F1 (ใช่แล้ว ถ้าคุณชอบดูการแข่งขันรถสูตร 1 บนแท็บเล็ตล่ะก็ มาร์ตินคือคนที่คุณต้องขอบคุณ!) สำหรับโปรเจกต์นี้ มาร์ตินถึงกับต้องเรียนรู้ภาษาใหม่สำหรับเขียนโค้ดเลยทีเดียว โดยภาษาที่ว่านั้นคือ Ruby  

อ่านมาถึงจุดนี้ หากจะมีข้อคิดหนึ่งจากมาร์ติน คงเป็นเรื่องนี้ – อย่าหยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และพัฒนาตัวเอง ถ้าลิสต์ทักษะของเขาออกมาล่ะก็ คงจะหน้าตาประมาณนี้

Tech Support – ทำได้ 

System Administration – ทำได้

Software Development – ทำได้

Coding – ทำได้

DevOps – ทำได้

เพราะมีความรู้สายเทคครอบคลุมหลากหลายด้าน มาร์ตินจึงเนื้อหอมในหมู่บริษัทเทคเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งบริษัทที่อยู่ในอีกประเทศหนึ่งซึ่งห่างออกไปเกือบครึ่งโลก – ประเทศไทยนั่นเอง!

“บริษัทหนึ่งในประเทศไทยอยากสร้างระบบด้านการท่องเที่ยว ผมจึงย้ายมาประเทศไทยแล้วเริ่มต้นสร้างทุกอย่างจากศูนย์ จนมันกลายเป็นแอปพลิเคชันที่มีคนใช้งานเป็นล้านครั้งต่อวัน”

สำหรับโปรเจกต์นี้ มาร์ตินเป็นทั้ง DevOps Engineer และ CTO บริหารทีมและดูแลระบบนี้โดยเฉพาะ เขาต้องนำพาทีม Scale ระบบ และอื่นๆ อีกมากมาย “ไม่ใช่แค่บริษัทที่ผ่านการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน แต่ตัวผมเองก็ด้วย” เขาเล่า

และในเวลานี้ที่มาร์ตินมีประสบการณ์ครบทุกด้าน เขาก็พร้อมแล้วที่จะผลักดันโปรเจกต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด นั่นคือ Bluebik Global

“ที่ Bluebik เราทำงานกันอย่างยอดเยี่ยม ชื่อเสียงของพวกเราค่อนข้างดีเทียบกับบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำในประเทศไทย และตอนนี้ผมก็อยากจะนำเสนอความเป็น Bluebik ให้คนทั้งโลกได้รับรู้ ให้สามารถแข่งขันกับบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกได้

“เราค่อนข้างแตกต่างจากบริษัทที่ปรึกษาอื่นๆ ตรงที่ว่า เราผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและ Capability ด้าน Consulting เข้าด้วยกันอย่างลงตัว บริษัทอื่นอาจจะมีทั้งส่วนงาน Consulting และ IT อยู่ในบริษัทเหมือนกัน แต่การผสมผสานระหว่างฝั่งเทคและ Business อาจจะยังไม่ลงตัวมากนัก ในทางกลับกัน ที่ Bluebik เรามีคนสายเทคอยู่ทุกจุด ตัวผมก็มีประสบการณ์ด้านเทคมานาน เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในทีม และทีม Consulting ของเรามีทั้ง Technology Skills และ People Skills ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งนั่นถือเป็น Value ของพวกเรา”

หากพูดถึง People Skills มาร์ตินคือผู้นำประเภท Lead by Example 

“เวลาผมคุยกับลูกค้า ผมอาจต้องคุยกับคนที่ไม่ได้มาจากสายเทค ผมจึงจำเป็นต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่า ทำไมถึงต้องเปลี่ยน Architecture ระบบ และต้องอธิบายในแบบที่ไม่ทำให้เขารู้สึกว่าเราเหนือกว่า ยิ่งไปกว่านั้น หากลูกค้ามาจากสายไอที ผมก็ต้องอธิบายให้เข้าใจว่าเรามาเพื่อช่วยไม่ได้เป็นศัตรู นั่นหมายความว่าเราต้องอธิบายให้คนฝั่งไอทีรู้สึกอยากทำงานกับเราให้ได้ อย่างโปรเจกต์ล่าสุด เรามีนัดประชุมกับคนที่เกี่ยวข้องประมาณ 10 คน แต่สุดท้ายมีคนขอเข้าร่วมประชุมถึง 24 คน อีก 14 คนที่เพิ่มเข้ามาบอกว่าได้ยินว่าจะมีประชุมนี้เลยขอเข้ามาฟังด้วย ทั้งหมดนี้เป็นเรื่อง People Skills ทั้งนั้น”

แม้ว่ามาร์ตินจะชอบการพัฒนาและดูแลระบบที่ซับซ้อน แต่เขายอมรับว่าได้ทำสิ่งเหล่านั้นน้อยลงเมื่อก้าวขึ้นมาเป็น Director ที่ Bluebik Global

“ทุกวันนี้งานส่วนใหญ่ของผมคือการดูแลภาพรวมในเชิงกลยุทธ์ว่าเราต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น เช่น เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่วางแผนไว้ไม่ได้ การขยายธุรกิจ ดูเรื่องความเสี่ยงและป้องกันความเสี่ยง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องลองเสี่ยงเมื่อจำเป็น ดังนั้นจริงๆ แล้วงานของผมยังคงเป็นการพัฒนาระบบ ซึ่งระบบที่ว่านั้นก็คือองค์กร ตรงนี้เองที่ผมต้องงัดทักษะทั้งหมดในตัวออกมาใช้ โดยเฉพาะ People Skills ผมอาจจะโน้มน้าวคุณไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยผมต้องทำให้คุณเข้าใจจริงๆ และขอความคิดเห็นของคุณ เราจะได้มีความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งความเข้าใจร่วมกันนี่เองที่จะทำให้เราเดินหน้าไปด้วยกันได้ 

“เวลาทำงานกับทีม ผมไม่มีทางบอกว่า ‘คุณต้องทำแบบนี้เพราะผมสั่ง’ ผมมักจะบอกว่า ‘มาทำแบบนี้กันเถอะเพราะมันเป็นวิธีที่ดีที่สุด’ ผมชอบการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับทีม”

แม้เดี๋ยวนี้เวลาจะเป็นของหายาก แต่เมื่อมีเวลา มาร์ตินจะชอบไปขับเครื่องบิน “ผมมีใบอนุญาตขับเครื่องบินขนาดเล็ก ผมชอบการบินมากๆ เหตุผลแรกเป็นเพราะว่า วิวนอกหน้าต่างมันสวยมากๆ เหตุผลที่สองคือ ผมรู้สึกผ่อนคลายเวลาขับเครื่องบิน มันเหมือนเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่งเลยล่ะ เวลาคุณขับเครื่องบิน คุณจะไม่คิดถึงเรื่องอื่น เพราะสิ่งที่ต้องทำตรงหน้ามันเยอะมาก คุณจะโฟกัสแค่เฉพาะสิ่งที่ต้องทำในปัจจุบัน คุณจะไม่คิดถึงเรื่องของพรุ่งนี้หรือสัปดาห์หน้าแน่นอน

“ในแง่หนึ่ง ผมคิดว่าการขับเครื่องบินก็เหมือนการบริหารธุรกิจ คุณต้องทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกัน และการขับเครื่องบินก็ช่วยเตรียมตัวคุณให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ยากๆ สมมติเครื่องยนต์ดับไปตอนคุณอยู่สูงจากพื้นดินไป 5,000 ฟุต คุณต้องดำเนินการตามขั้นตอนฉุกเฉินได้โดยอัตโนมัติ เริ่มจากค่อยๆ ประคองหัวเครื่องบิน หาพื้นที่ที่น่าจะแลนด์ได้ แล้วสื่อสาร เปรียบกับการทำธุรกิจ ถ้ามีอะไรผิดพลาดไป เราต้องประเมินสถานการณ์ก่อน ทำความเข้าใจมัน แล้วแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ดีที่สุดที่คุณนึกออก ณ ขณะนั้น

“บางคนอาจจะโวยวาย ตีโพยตีพาย เวลาเจอกับสถานการณ์แย่ๆ แต่ถ้าคุณอยู่บนเครื่องบิน แล้วกัปตันของคุณเริ่มโวยวายหรือร้องไห้ นั่นต่างหากที่เป็นปัญหา กัปตันของคุณสมควรเป็นคนที่ใจเย็นที่สุดบนเครื่องบิน”

สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นทำงานสายเทค ผู้อำนวยการ Bluebik Global คนนี้มีคำแนะนำทิ้งท้ายให้ว่า “จงเป็นคนช่างสงสัย ตามหาสิ่งที่ทำให้คุณตื่นเต้นและอยากเรียนรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา อีกอย่างหนึ่งคือ Move fast and break things เพราะวงการเทคเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่เสมอ ดังนั้นจงเข้าไปคลุกคลีและทำความเข้าใจกับอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ลองทำมันพัง แล้วซ่อมมัน ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณได้เรียนรู้ ผมการันตีเลยว่าคนสายเทคทุกคนจะต้องเคยทำอะไรเจ๊งสักอย่าง  ไม่ว่าจะส่งแอปขึ้น Production ไม่ผ่าน  ทำเว็บไซต์ดาวน์ มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา และนั่นแหละคือวิธีได้มาซึ่งประสบการณ์”  

มาร่วม Move fast and break things กับมาร์ตินได้แล้ววันนี้ ส่ง CV ของคุณมาที่ [email protected]