Cybersecurity

รวมเทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 ที่ธุรกิจและองค์กรไม่ควรมองข้าม

4 มิถุนายน 2568

By Bluebik

2 Mins Read

รวมเทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 ที่ธุรกิจและองค์กรไม่ควรมองข้าม

รวมเทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 ที่ธุรกิจและองค์กรไม่ควรมองข้าม

รวมเทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 ที่ธุรกิจและองค์กรไม่ควรมองข้าม เพื่อรับมือภัยคุกคามใหม่ เสริมเกราะป้องกันข้อมูล และสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน

ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความท้าทายเรื่อง Cybersecurity หรือความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญที่องค์กรและธุรกิจไม่อาจละเลย โดยเฉพาะในปี 2025 ซึ่งมีแนวโน้มว่าภัยคุกคามไซเบอร์จะมีความซับซ้อนและโจมตีอย่างเป็นระบบมากขึ้น การเตรียมพร้อมและเข้าใจแนวโน้มในโลกของ Cybersecurity จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของแผนกไอทีเท่านั้น แต่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญระดับองค์กร ที่จะช่วยปกป้องข้อมูล ทรัพยากร และความเชื่อมั่นจากลูกค้าอย่างยั่งยืน

บทความนี้จะพาไปสำรวจเทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 ที่กำลังเป็นที่จับตามอง พร้อมคำแนะนำในการรับมือ เพื่อให้ทุกองค์กรสามารถยืนหยัดอย่างมั่นคงท่ามกลางภัยไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

 

8 เทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 ที่ธุรกิจและองค์กรไม่ควรมองข้าม

  1. การโจมตีแบบ AI-Powered Cyberattacks เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    ในปี 2025 เราจะได้เห็นภัยคุกคามที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือที่เรียกว่า AI-Powered Cyberattacks มากขึ้นอย่างชัดเจน อาชญากรไซเบอร์เริ่มใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ช่องโหว่แบบเรียลไทม์ ปรับเปลี่ยนวิธีโจมตีให้หลบเลี่ยงระบบตรวจจับแบบดั้งเดิมได้อย่างแนบเนียน นอกจากนี้ AI ยังสามารถสร้างข้อความฟิชชิ่งที่เหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้งานตกเป็นเหยื่อได้ง่ายยิ่งขึ้น

    องค์กรจำเป็นต้องอัปเกรดระบบ Cybersecurity ให้รองรับการตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ (Behavioral Analytics) และเสริม Machine Learning เพื่อเรียนรู้ภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาการตั้งค่าล่วงหน้าแบบเดิมอีกต่อไป

  2. การป้องกันข้อมูลแบบ Zero Trust จะกลายเป็นมาตรฐานกลาง
    โมเดล Zero Trust Security คือแนวคิดที่ไม่มีใครหรือระบบใดภายในหรือภายนอกองค์กรควรได้รับความไว้วางใจโดยอัตโนมัติ ทุกการเข้าถึงต้องมีการพิสูจน์ตัวตนและการอนุญาตทุกครั้ง ในปี 2025 แนวทางนี้จะถูกยกระดับเป็นมาตรฐานหลักของความปลอดภัยทางไซเบอร์

    ด้วยจำนวนพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล (Remote Work) และการใช้งานแอปพลิเคชันบน Cloud ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง Zero Trust จึงเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการควบคุมการเข้าถึงและลดความเสี่ยงจากการโจมตีภายในองค์กรเอง

  3. Cybersecurity Mesh Architecture (CSMA): ความปลอดภัยที่ยืดหยุ่นตามบริบท
    อีกหนึ่งแนวทางที่กำลังได้รับความสนใจคือ Cybersecurity Mesh Architecture ซึ่งช่วยให้การจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องรวมศูนย์ทุกอย่างไว้ที่ศูนย์กลางอีกต่อไป องค์กรสามารถกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในแต่ละส่วนของระบบได้อย่างอิสระ และครอบคลุมถึงผู้ใช้งานจากหลายอุปกรณ์

    เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การดูแลความปลอดภัยของข้อมูลในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริด (Hybrid) มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังรองรับการปรับขนาดระบบและบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้นในยุค Big Data

  4. การดูแล Cybersecurity ของซัพพลายเชนกลายเป็นภารกิจหลัก
    ธุรกิจในปี 2025 ไม่ได้ดำเนินการอย่างโดดเดี่ยว แต่อยู่ในระบบนิเวศดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับซัพพลายเออร์ พันธมิตร และลูกค้า ข้อมูลขององค์กรอาจผ่านมือของหลายฝ่าย จึงต้องให้ความสำคัญกับ Cybersecurity ของซัพพลายเชนอย่างจริงจัง

    องค์กรควรเริ่มตรวจสอบระดับความปลอดภัยของคู่ค้า เช่น การทำ Security Assessment เป็นประจำ มีนโยบาย Data Sharing อย่างรัดกุม และใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจไม่สะดุด และลดโอกาสในการถูกโจมตีผ่านจุดอ่อนของบุคคลที่สาม

  5. การป้องกันภัยทางไซเบอร์แบบเชิงรุก (Proactive Cyber Defense)
    หนึ่งในเทรนด์สำคัญของความปลอดภัยทางไซเบอร์ปี 2025 คือการเปลี่ยนจากแนวทางป้องกันแบบรับมือ (Reactive) ไปสู่การป้องกันเชิงรุก (Proactive) โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จาก Threat Intelligence เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มภัยคุกคามล่วงหน้า

    การป้องกันเชิงรุกจะช่วยให้องค์กรสามารถอุดช่องโหว่ก่อนที่จะถูกโจมตีจริง เช่น การทำ Red Team / Blue Team Exercises หรือจำลองการโจมตีเพื่อประเมินจุดอ่อน ซึ่งจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการประเมินความพร้อมด้าน Cybersecurity

  6. ความมั่นคงของระบบ Cloud และ API คือจุดอ่อนไหวที่ต้องจัดการ
    การใช้ Cloud และ API อย่างแพร่หลายในการพัฒนาแอปพลิเคชันองค์กร ทำให้เกิดช่องทางใหม่ ๆ ที่อาจเป็นจุดอ่อนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ หากไม่มีการออกแบบระบบที่รัดกุมตั้งแต่ต้น

    องค์กรควรเลือกผู้ให้บริการ Cloud ที่มีมาตรฐานด้าน Cybersecurity ชัดเจน พร้อมทั้งติดตั้งระบบ Web Application Firewall (WAF), API Gateway ที่มีการตรวจสอบสิทธิ์ และเครื่องมือสำหรับตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติแบบอัตโนมัติ เพื่อสร้างเกราะป้องกันในระดับโครงสร้าง

  7. การให้ความรู้ด้าน Cybersecurity แก่พนักงานเป็นสิ่งที่ต้องลงทุนต่อเนื่อง
    ไม่ว่าองค์กรจะมีเทคโนโลยีป้องกันที่ทันสมัยเพียงใด แต่หากบุคลากรยังขาดความตระหนักรู้ ความเสี่ยงด้าน Cybersecurity ก็ยังคงมีอยู่สูง ในปี 2025 การจัดอบรมให้พนักงานรู้ทันภัยไซเบอร์ เช่น การหลอกลวงผ่านอีเมล การตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย และการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล จะกลายเป็นกิจกรรมประจำปีของทุกองค์กร

    การสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จะช่วยให้ทั้งองค์กรมีภูมิคุ้มกัน และสามารถป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลจากภายในได้ดีกว่าการพึ่งพาเครื่องมือเพียงอย่างเดียว

  8. การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายจะเข้มงวดมากขึ้น
    ด้วยการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น PDPA และ GDPR ที่เข้มงวดมากขึ้นทั่วโลก องค์กรจำเป็นต้องจัดการข้อมูลลูกค้าให้สอดคล้องกับกฎหมาย โดยไม่ละเลยด้าน Cybersecurity

    เทคโนโลยีอย่าง Data Loss Prevention (DLP), Data Classification และการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) จะถูกใช้มากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้โดยไม่เสี่ยงต่อการถูกปรับหรือสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้า

 

Cybersecurity ปี 2025 คือยุคของความแม่นยำ ยืดหยุ่น และเชิงรุก

ปี 2025 กำลังจะกลายเป็นหมุดหมายสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มตัว และภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน องค์กรที่ต้องการยืนหยัดอย่างมั่นคงในยุคนี้ จำเป็นต้องปรับแนวคิดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จากการ “ป้องกันหลังเกิดเหตุ” ไปสู่การ “ป้องกันเชิงรุก”

การติดตามเทรนด์ Cybersecurity อย่างใกล้ชิด พร้อมลงทุนในเครื่องมือที่เหมาะสม พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางไซเบอร์ และสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้กับบุคลากร จะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับความเสี่ยงใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างเกราะป้องกันข้อมูลให้มั่นคงในระยะยาว

Bluebik Group คือผู้นำด้าน Digital Transformation ที่พร้อมสนับสนุนองค์กรในการเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) อย่างรอบด้าน ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จริงในการออกแบบระบบป้องกันภัยไซเบอร์ให้กับองค์กรขนาดใหญ่หลากหลายอุตสาหกรรม Bluebik ไม่เพียงให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์เท่านั้น แต่ยังช่วยวางโครงสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดรับกับเทรนด์ใหม่ในปี 2025 ทั้งในด้าน Zero Trust, Cybersecurity Mesh, การวางแผนรับมือภัยคุกคาม AI-Powered และการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA และ GDPR)

เราช่วยองค์กรสร้างระบบ Cybersecurity ที่ยืดหยุ่น ปรับขนาดได้ และป้องกันภัยเชิงรุกได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งสนับสนุนให้บุคลากรมีความรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างเป็นระบบ หากคุณต้องการพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้าใจทั้งมิติเทคโนโลยี ความเสี่ยง และกลยุทธ์องค์กร Bluebik Group พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับความมั่นคงไซเบอร์ให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน

 

ติดตามทุกเทรนด์ธุรกิจและนวัตกรรมเทคโนโลยีไปกับเรา

 

Source:

  • 5 เทรนด์ความปลอดภัยในปี 2025 ที่ทุกองค์กรต้องปรับตัว
  • แนวโน้มภัยคุกคาม AI ที่ควรระวัง 2025

4 มิถุนายน 2568

By Bluebik