
การตัดสินใจลงทุนจ้างที่ปรึกษาธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation เป็นก้าวแรกที่สำคัญ แต่กุญแจสู่ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ความสามารถของที่ปรึกษาเพียงอย่างเดียว หากแต่อยู่ที่ความพร้อมและความร่วมมือของทีมงานภายในองค์กร การทรานส์ฟอร์มทางดิจิทัลเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องอาศัยการบูรณาการและการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม การสร้างทีมภายในที่แข็งแกร่งและทำงานร่วมกับที่ปรึกษาได้อย่างราบรื่นจึงเป็นสิ่งที่ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญ บทความนี้จะเจาะลึกกลยุทธ์และแนวทางปฏิบัติในการสร้าง “ทีมร่วมทรานส์ฟอร์ม” ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ทำไมการสร้างทีมภายในจึงสำคัญต่อ Digital Transformation?
หลายองค์กรเข้าใจผิดว่าการจ้างที่ปรึกษาหมายถึงการ “โอน” ภาระการเปลี่ยนแปลงไปให้คนนอกดูแล แต่ในความเป็นจริงแล้ว ที่ปรึกษาคือผู้ขับเคลื่อน (Driver) และผู้ออกแบบ (Architect) เท่านั้น ส่วนผู้ที่จะนำแผนไปปฏิบัติและใช้ชีวิตอยู่กับระบบใหม่คือคนในองค์กร การสร้างทีมภายในที่ดีจึงสำคัญด้วยเหตุผลดังนี้:
- การถ่ายโอนความรู้ (Knowledge Transfer): ทีมภายในคือผู้รับมอบความรู้และทักษะจากที่ปรึกษา เมื่อโครงการจบลง ทีมนี้จะสามารถบำรุงรักษาและพัฒนาต่อยอดระบบใหม่ได้ด้วยตนเอง
- การนำร่องการเปลี่ยนแปลง (Change Adoption): ทีมภายในคือกลุ่มแรกที่เชื่อและนำแนวคิดใหม่ไปใช้ ทำให้เกิดการยอมรับและเป็นแบบอย่างให้กับพนักงานแผนกอื่น ๆ
- ความเข้าใจในธุรกิจ (Business Context): ทีมงานภายในมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกระบวนการทำงาน ลูกค้า และวัฒนธรรมขององค์กร ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ที่ปรึกษาต้องอาศัยในการออกแบบโซลูชั่นที่เหมาะสม
กลยุทธ์ 3 องค์ประกอบหลักในการสร้างทีมร่วมทรานส์ฟอร์ม
การสร้างทีมที่ประสบความสำเร็จในการทำงานร่วมกับที่ปรึกษา Digital Transformation ต้องอาศัยการกำหนดบทบาท หน้าที่ และทัศนคติที่ชัดเจน
1. การกำหนดบทบาทและโครงสร้างทีม (Structure & Roles)
ทีมที่ทำงานร่วมกับที่ปรึกษาควรมีโครงสร้างที่ชัดเจน เพื่อให้การสื่อสารและการตัดสินใจเป็นไปอย่างรวดเร็ว
- ผู้สนับสนุนโครงการ (Executive Sponsor): ควรเป็นผู้บริหารระดับสูง (เช่น CEO, COO, หรือ CDO) ที่มีอำนาจในการตัดสินใจด้านงบประมาณ การจัดสรรทรัพยากร และการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างแผนก บทบาทนี้สำคัญที่สุดในการผลักดันให้โครงการไม่หยุดชะงัก
- ผู้จัดการโครงการภายใน (Internal Project Manager / Program Lead): บุคคลนี้ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงหลักระหว่างทีมที่ปรึกษาและทีมภายในทั้งหมด มีหน้าที่ติดตามความคืบหน้า จัดการทรัพยากร และรายงานสถานะต่อผู้สนับสนุนโครงการ
- ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ (Subject Matter Experts – SMEs): คัดเลือกบุคลากรที่มีความเข้าใจในกระบวนการทำงานของแต่ละแผนกอย่างลึกซึ้ง (เช่น บัญชี การผลิต หรือการตลาด) เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ที่ปรึกษา และช่วยทดสอบระบบใหม่
2. การสร้างทัศนคติ “เป็นเจ้าของ” (Ownership Mindset)
ความสำเร็จของ Digital Transformation ขึ้นอยู่กับการที่ทีมภายในรู้สึกว่าโครงการนี้เป็น “ของพวกเขา” ไม่ใช่ “ของที่ปรึกษา”
- การมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น: ให้ทีมภายในมีส่วนร่วมในการวินิจฉัยปัญหาและออกแบบโซลูชั่นตั้งแต่แรก เพื่อให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ
- เน้นการเรียนรู้และถ่ายทอด: ให้ความชัดเจนว่าเป้าหมายของการทำงานร่วมกันคือการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ จากที่ปรึกษา ไม่ใช่แค่การส่งต่องาน
- การสื่อสารความสำเร็จ: สื่อสารความสำเร็จเล็ก ๆ (Quick Wins) ที่เกิดจากการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ และแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของการเปลี่ยนแปลง
3. การจัดสรรเวลาและทรัพยากรที่เหมาะสม (Time & Resources)
บ่อยครั้งที่โครงการล้มเหลวเพราะทีมภายในถูกคาดหวังให้ทำงานร่วมกับที่ปรึกษาโดยที่ยังต้องรับผิดชอบงานประจำเต็มเวลา
- ปลดภาระงานประจำ: ผู้บริหารควรพิจารณาปลดภาระงานประจำบางส่วนให้กับบุคลากรที่เป็นแกนหลักของทีมทรานส์ฟอร์ม เพื่อให้พวกเขาสามารถทุ่มเทเวลาให้กับโครงการได้อย่างเต็มที่
- การฝึกอบรมร่วมกัน: จัดสรรงบประมาณและเวลาสำหรับการฝึกอบรมและ Work Session ร่วมกับที่ปรึกษาอย่างสม่ำเสมอ
- การใช้เครื่องมือที่เหมาะสม: จัดหาเครื่องมือและแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกัน (Collaboration Tools) เพื่อให้การทำงานระหว่างที่ปรึกษาและทีมภายในเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป: การลงทุนในทีมคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
การจ้างที่ปรึกษาธุรกิจด้าน Digital Transformation เป็นเพียงการซื้อ “เมล็ดพันธุ์” ที่ดี แต่การสร้างทีมภายในที่พร้อมรับผิดชอบการปลูกและดูแลรักษานั้นคือ “ดิน” และ “น้ำ” ที่จะทำให้โครงการเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ การสร้างความพร้อมของทีมงาน การมอบหมายบทบาทที่ชัดเจน และการสร้างทัศนคติการเป็นเจ้าของ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โครงการ Digital Transformation ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน และสร้างขีดความสามารถที่ยังคงอยู่กับองค์กรไปอีกนาน
Bluebik Group: พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน
เพื่อให้การทำ Digital Transformation ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง การมีทีมภายในที่แข็งแกร่งควบคู่กับการมีที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเชิงลึกคือกุญแจสำคัญ Bluebik Group ที่ปรึกษาชั้นนำด้าน Digital Transformation, Strategy และ Technology Consulting พร้อมสนับสนุนองค์กรของคุณในการวางแผนและบริหารโครงการร่วมกับทีมภายในอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยประสบการณ์ทำงานกับองค์กรขนาดใหญ่ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทีมของ Bluebik ไม่เพียงเป็นผู้ออกแบบกลยุทธ์ แต่ยังเป็นพันธมิตรที่ช่วยยกระดับศักยภาพของทีมภายในให้สามารถบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตนเองในระยะยาว สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bluebik.com/th/
ติดตามทุกเทรนด์ธุรกิจและนวัตกรรมเทคโนโลยีไปกับเรา
Source:
- McKinsey & Company. Unlocking success in digital transformations
- BCG (Boston Consulting Group). Digital Transformation
- Gartner. (2022). 5 Key Digital Transformation Challenges Government CIOs Must Tackle