ขอพักเรื่องงานมาพูดเรื่องมิตรภาพกัน 1 วัน เพราะวันที่ 30 กรกฎาคมของทุกปี เหล่าเพื่อนสนิททั่วโลกต่างพากันเฉลิมฉลอง International Friendship Day
Bluebik ขอร่วมสนุกไปกับวันแห่งมิตรภาพด้วยเรื่องเล่าฮาน้ำตาไหล แต่ในขณะเดียวกันก็อบอุ่นหัวใจสุดๆ จาก 3 คู่เพื่อนซี้ที่มารู้จักกันด้วยหน้าที่การงาน แต่พากันตะลอนเที่ยว ตะลอนกิน ตะลอนสนุก กันไปไกลกว่า BTS ช่องนนทรีมาก
ไม่เกริ่นยาว ไปฟังเรื่องราวของพวกเขากันเลยดีกว่า!
มะไหม HR & นก HR
คู่เพื่อนซี้ติดหมอ-ติดหม้อ ฟิลเลอร์ก็ต้องเติม หม่าล่าก็ต้องกิน
ทั้งคู่มารู้จักกันได้อย่างไร
มะไหม : เรารู้จักนกผ่านๆ จาก Instagram ของพี่รหัสสมัยมหาวิทยาลัย รู้ว่า อ๋อ คนนี้เป็นรุ่นน้องที่ทำงานของพี่รหัส เรียนคณะเดียวกันแต่คนละเอก มีวันหนึ่งพี่ถามว่า Bluebik ยังรับ HR อยู่ไหมแล้วแนะนำนกเอาไว้ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้รับ จน 3-4 เดือนผ่านไปเราเปิดรับ HR เลยฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็เลยทักไปขอ CV นกอีกครั้ง ประจวบเหมาะว่าประสบการณ์ของเพื่อนตรงกับตำแหน่งที่กำลังหาพอดี ก็เลยติดต่อไป ตั้งแต่วันนั้นที่คุยกันครั้งแรกจนวันนี้ยังไม่มีวันไหนทีหยุดคุยกันเลยซักวัน นี่มันพรหมลิขิตชัดๆ
ปกติชอบนัดกันไปทำอะไรบ้าง
มะไหม : จริงๆ นัดกันไปทำทุกอย่างเลยนะ ตั้งแต่เข้าออฟฟิศ กินบุฟเฟต์ ไปคาเฟ่ ดูคอนเสิร์ต เที่ยวต่างจังหวัด เข้าคลินิกเติมวิตามิน ฟิลเลอร์ นั่งรถกลับบ้านด้วยกัน ไปออกกำลังกาย แต่อย่างหลังนี้คือน้อยๆๆๆ ที่สุดเลย เหตุการณ์ที่ประทับใจที่สุดคงเป็นเรื่องที่เพื่อนทำให้เราดูแลตัวเองมากขึ้น พาเข้าวงการต่อขนตา ไม่แต่งหน้าไม่เป็นไรขนตาต้องเด้งมาก่อน งานหนักแค่ไหน จะกินมากเท่าไหร่ ฉีดฟิลเลอร์ฉ่ำๆ เข้าไป หน้าตาสดใส ฟิลเลอร์ช่วยคุณได้เสมอ!
นก : ถ้านัดกันก็ไม่คงพ้นเรื่องกินกับเรื่องความสวยความงาม อย่างเรื่องกินเพื่อนเราเขาไม่เคยยอมแพ้ เขาสรรหาเก่ง เขาเป็นนักรีวิวตัวแม่ ยิ่งถ้าเป็นหมาล่า ชีคือเลิฟมาก มีวันนึงนัดกับเพื่อนๆ ที่ออฟฟิศไปปืนผากัน ชวนเพื่อนแทบตาย เพื่อนไม่ไป เพื่อนบอกไม่สู้ เพื่อนจะพักผ่อน เพื่อนเหนื่อย แต่พอบอกถ้าปืนผาเสร็จแล้วเดี๋ยวไปกินหมาล่าอาม่งกันต่อ เพื่อนบอกไปทันที แต่ไม่ได้ไปออกกำลังกายด้วยกันนะ ชีไปรอที่ร้านหมาล่าเลยจ้า (หัวเราะ) พยายามจะมีกิจกรรมอื่นๆแล้ว มันดันไม่ขึ้นจริงๆ
การมีเพื่อนสนิททำงานที่เดียวกันมันดีอย่างไร
มะไหม : นกเป็นเหมือนความสดใสและด้วยความใสๆ เพื่อนเป็นเหมือนน้องสาวที่น่ารักและน่าหยิกเสมอ ในวันที่นอย ในวันที่เหนื่อย หมดพลัง เพื่อนจะเหมือนปั๊มน้ำมันที่เติมพลังให้เสมอ เรียกได้ว่ามองตาก็รู้ใจ เม้าใครก็รู้กัน ผลัดกันเล่า ผลัดกันฟัง ผลัดกันกรี๊ดวนวนๆๆๆ ไป ใครจะเข้าใจเราเท่าพวกเรามันไม่มีอีกแล้ว เล่นบทแอบซึ้งนิดนึงก็คือการที่มีนกอยู่มันเป็นเรื่องราวดีๆ เรื่องหนึ่งที่ทำให้เราแฮปปี้ในการอยู่ Bluebik จริงๆ ถึงแม้จะเข้าใจกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง หยิกหลังกันบ้างก็ตาม
เพื่อนสนิทคนนี้ช่วย Empower เราอย่างไรบ้าง
นก : เพื่อนเป็นคนที่ทำให้เรามั่นใจในตัวเองขึ้น เพื่อนจะคอย Cheer Up เสมอ อะไรเราทำดี เพื่อนก็บอกว่าดีและพร้อมดันหลังเราเต็มที่ เช่น ถ้ามีคนบอกว่าเราเก่ง เพื่อนจะบอกว่าใช่ค่ะ นกเก่งมาก และอะไรที่เราทำไม่ดี เพื่อนก็บอกว่าดีเพื่อให้เราสบายใจ (หัวเราะ) ล้อเล่น เพื่อนก็คอยแนะนำให้เราดีขึ้นไปอี๊ก
ถ้าไม่มีเพื่อนสนิทคนนี้ คิดว่าชีวิตตัวเองจะเป็นอย่างไร
มะไหม : ก็คงเหี่ยวเฉา เหมือนดอกไม้ที่ขาดน้ำ เสื้อผ้าที่ขาดเตารีด ไฟแช็กที่ไร้น้ำมัน และหมูกะทะที่ไม่มีหมูสามชั้น Instagram Story ของเราก็คงว่างเปล่าและเหงาเดียวดาย ขาดไปก็คงเคว้งคว้างไม่สมบูรณ์ อยู่ด้วยกันมันก็ดีกว่าอยู่แล้ว
สำหรับวัน Friendship Day ปีนี้ อยากชวนเพื่อนสนิทไปทำอะไร
นก : อยากชวนไปเที่ยวแบบจอยๆ แค่นอนแล้วก็กินแบบที่เราชอบทำ ไม่ต้องมี Activity อะไรก็ได้ เดี๋ยวเธอจะเหนื่อย แล้วฉันก็จะเหนื่อยเหมือนกัน (หัวเราะ)
ต้น BD & พิมพัท BD
คู่เพื่อนซี้สาย Cafe Hopping ไม่หวั่นแม้วันฝนตกหนักมาก
ทั้งคู่มารู้จักกันได้อย่างไร
ต้น : ทำงานด้วยกันตลอดเวลา
ปกติชอบนัดกันไปทำอะไรบ้าง
พิมพัท : นัดเกือบทุกอย่าง กิจกรรมที่ออฟฟิศ กินข้าว ไปคาเฟ่ ไปเที่ยวกลางวัน-กลางคืน เช่น พาไปเปิดโลกที่ซอย 2 พาไปดู Drag Show สอนคำศัพท์ใหม่ และก็ได้เพื่อนใหม่ ไปทีไรพี่ต้นคือ ส.ส.ท่านหนึ่ง มีแต่คนรู้จัก คนทักไปหมด
ต้น : ชอบนัดกันไปคาเฟ่ ไปเที่ยวนอกเวลางาน ไปกินข้าว ไปเที่ยวต่างจังหวัด เหตุการณ์สุดพีคที่เจอคือ วันนั้นนัดกันไปคาเฟ่ พอลงบีทีเอสปุ๊ป จะรอเรียก Muvmi ไปร้าน จากแดดเปรี้ยงๆ ก็กลายเป็นว่าฝนตกหนักมากแบบมากกกก พร้อมลมที่แรงมาก สรุปคือเปียกกันหมด เท่านั้นยังไม่พอ ตอนลงจากรถยัยพิมลื่นแล้วรองเท้าหลุดจ้า เท้าจุ่มไปในน้ำสุด แต่เพื่อนๆ ไม่มีใครช่วยนะ ขอยืนขำก่อน ละที่พีคกว่าคือ พอถึงร้านปุ๊ปฝนหยุดปั๊ปเลยจ้า เหมือนโดนแกล้ง
พิมพัท : โดยปกติแล้ว เหตุการณ์พีคๆ ตลกๆ เปิ่นๆ โก๊ะๆ จะเกิดกับพิมตลอด ไม่ว่าจะหลงทาง ไปผิดที่ หกล้ม ลื่น หัวชน ส่วนพี่ต้นจะคอยซ้ำเติม (หัวเราะ)
การมีเพื่อนสนิททำงานที่เดียวกันมันดีอย่างไร
ต้น : ไม่เหงา ไม่ง่วง เพราะมีคนให้คุย ให้ปรึกษาด้วยตลอดเวลา
พิมพัท : ใช่ๆ มีอะไรก็ช่วยกัน เล่าให้กันฟังได้ทุกเรื่อง กรี๊ดด้วยกัน
เพื่อนสนิทคนนี้ช่วย Empower เราอย่างไรบ้าง
ต้น : คอยให้กำลังใจ รับฟังเรื่องบ่นในทุกๆเรื่อง รวมถึงเรื่องส่วนตัว (หัวเราะ)
พิมพัท : เหมือนกัน ดีกว่าไป Therapy
ถ้าไม่มีเพื่อนสนิทคนนี้ คิดว่าชีวิตตัวเองจะเป็นอย่างไร
ต้น : เหงา น่าเบื่อ ไม่มีสีสัน
พิมพัท : เหงา เศร้า ซึม เหมือนอกหัก
สำหรับวัน Friendship Day ปีนี้ อยากชวนเพื่อนสนิทไปทำอะไร
ต้น : คาเฟ่คาใจเหมือนเดิมนั่นแหละ เอ๊ะ! หรือจะชวนไปวัดดี เปลี่ยนแนว
พิมพัท : จริงๆ น่าไปวัด เสริมดวงกันหน่อย เพราะรู้สึกเหมือนดวงติดกัน ดี-แย่เหมือนกันไปหมด (หัวเราะ)
ตุลย์ DX & บรรณ DX
คู่เพื่อนซี้ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ ไปไหนไปกันทุกที่
ทั้งคู่มารู้จักกันได้อย่างไร
บรรณ : รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพราะว่าเรียนคณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน และยังเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
ตุลย์ : ตอนเจอกันครั้งแรกบรรณเป็นคนเงียบๆ ชวนคุยก็ถามคำตอบคำ จนเราคิดว่ามันอยากรู้จักเราปะวะ จนมาจับกลุ่มทำงานในวิชาเรียนด้วยกันและเริ่มสนิทกัน เลยรู้ว่าจริงๆ มันไม่เงียบ มันพูดเยอะอยู่ ถ้ามันจะพูด มันพูดได้ (หัวเราะ)
ปกติชอบนัดกันไปทำอะไรบ้าง
ตุลย์ : จริงๆ จะชอบนัดกันไปเป็นกลุ่มเพื่อน กิจกรรมหลักๆ คือไปหาของกินอร่อยๆ บางครั้งก็ไปขับรถเที่ยวต่างจังหวัดกันบ้าง
บรรณ : ใช่ๆ ชอบไปตระเวนหาของกินร้านเด็ดร้านดังกัน แล้วด้วยความที่หลายๆ ร้านเราไม่เคยไปก็จะหลงทางกันบ่อย (หัวเราะ) แต่ก็สนุกเพราะได้ไปกับเพื่อน ได้ไปพูดคุยกัน
การมีเพื่อนสนิททำงานที่เดียวกันมันดีอย่างไร
ตุลย์ : ต่อให้งานจะเยอะ แต่แค่ไปเห็นหน้ากันที่ออฟฟิศ ได้แซวเล่นกันก็สนุกแล้ว (หัวเราะ)
บรรณ : มันดีที่เราพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่เฉพาะแค่เรื่องงาน
เพื่อนสนิทคนนี้ช่วย Empower เราอย่างไรบ้าง
ตุลย์ : เราสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนและผ่านเรื่องราวด้วยกันมาเยอะ ตั้งแต่ลุยโปรเจกต์จบด้วยกัน หรือผ่านช่วงการเปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญในชีวิต เราสองคนก็ช่วยเสริมกันและกัน ทั้งในมุมมองด้านการใช้ชีวิตต่างๆ หรือแชร์ประสบการณ์ต่างๆ
ถ้าไม่มีเพื่อนสนิทคนนี้ คิดว่าชีวิตตัวเองจะเป็นอย่างไร
บรรณ : อาจมีอะไรหลายอย่างที่ไม่ได้ลองทำ เพราะหลายๆ เรื่องที่ผ่านมาได้ด้วยดีก็เพราะมีเพื่อนคนนี้คอยให้คำปรึกษาอยู่เสมอ
สำหรับวัน Friendship Day ปีนี้ อยากชวนเพื่อนสนิทไปทำอะไร
บรรณ : คงจะชวนกันไปพักผ่อนต่างจังหวัด เปิดรูทร้านอาหารใหม่ๆ เพราะมันทำให้เราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ทำสิ่งต่างๆ ที่สามารถสนุกไปพร้อมๆ กันได้
ตุลย์ : คงชวนกันเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศและไปปาร์ตี้กันต่อดีกว่า (หัวเราะ) จริงๆ เราว่าในวัน Friendship Day เราไม่ได้ต้องทำอะไรพิเศษมากมายกับเพื่อน แต่เป็นวันที่ทำให้เรานึกถึงเพื่อนที่ช่วยส่งเสริมกันและกัน ผ่านทุกข์ ผ่านสุข มาด้วยกันในช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิต เพราะการเป็นเพื่อนกันมันไม่ได้เป็นเพื่อนกันแค่ 1 วัน 1 เดือน หรือ 1 ปี แต่มันคือการรักษามิตรภาพและปฎิบัติต่อกันอย่างคงเส้นคงวาตลอดไป