ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี หรือ Cryptocurrency ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์ว่า ‘บล็อกเชน (Blockchain)’ ได้ทำหน้าที่อย่างดีในฐานะเทคโนโลยีพื้นฐานของตลาดคริปโตฯ ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในโลกการเงินด้วยการลดบทบาทคนกลางอย่างธนาคารลง และยังสามารถบริหารจัดการธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างโปร่งใส ปลอดภัย และตรวจสอบได้
จากจุดกำเนิดของเทคโนโลยี Blockchain ที่พัฒนาเพื่อรองรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแรกของโลกอย่างบิทคอยน์ (Bitcoin) ในปี 2551 ปัจจุบัน Blockchain ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะนวัตกรรมที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการซื้อขายเหรียญคริปโตฯ ทุกสกุล (ปัจจุบันมีมากกว่า 18,000 สกุล) จากนักลงทุนเก็งกำไรทั่วโลก ที่การันตีด้วยสถิติมูลค่าซื้อขายต่อวันที่เคยสูงสุดถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2564 และสร้างเศรษฐีหน้าใหม่จากโลกการลงทุนเก็งกำไรจำนวนมาก ก่อนเข้าสู่ช่วงขาลงที่มีข่าวร้ายออกมาสั่นคลอนความเชื่อมั่นนักลงทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2565 จนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Blockchain ในแง่ของความรู้สึก
ในร้ายมีดี : จุดเริ่มต้นการใช้เทคโนโลยี Blockchain อย่างสร้างสรรค์
แม้ว่าขาลงของตลาดคริปโตฯ จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ Blockchain ในเชิงจิตวิทยา แต่ในมุมของเทคโนโลยี Blockchain ได้พิสูจน์ศักยภาพของตัวเองในยุครุ่งโรจน์ของคริปโตฯ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ Blockchain อยู่ในสปอตไลท์ความสนใจของคนทั่วโลกนับแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อตลาดคริปโตกำลังเข้าสู่ภาวะ ‘Bear Market’ จึงเริ่มมีการนำ Blockchain ไปใช้ในรูปแบบที่หลากหลายและสร้างสรรค์มากขึ้น รวมถึงเพื่อฟื้นความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพของคริปโตฯ ด้วยการกำหนดมาตรฐานเหรียญที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต
นอกจากนี้ Blockchain ยังเป็นเทคโนโลยีสำคัญภายใต้แนวคิดการปฏิวัติการใช้อินเตอร์เน็ตด้วย Web 3.0 ที่มีรูปแบบการทำงานแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) รวมไปถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ๆ ที่ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยเทคโนโลยีของ Blockchain เหล่านี้แสดงให้เห็นแล้วว่า วิวัฒนาการในโลกดิจิทัลที่มีการซื้อขาย และสกุลเงินดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นจำเป็นต้องมีเทคโนโลยี Blockchain สนับสนุน
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นกระแสการใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ สามารถต่อยอดและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับภาคธุรกิจ คุณภูริเชษฐ์ เทพดุสิต Head of Blockchain Advisory บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ระบุถึง 4 เมกะเทรนด์สำคัญของ Blockchain ทางเลือกใหม่ให้ธุรกิจที่น่าจับตามอง ดังนี้
- Asset-backed Tokens – เป็นวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นในโลกของการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากที่ตลาดคริปโตฯ ต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างหนักและสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนจำนวนมากที่เข้ามาเก็งกำไรในช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง Asset-backed Tokens จะเป็นการออกสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องมีสินทรัพย์ในโลกจริงอ้างอิง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้คริปโตฯ ผ่านกระบวนการแปลงมูลค่าสินทรัพย์ที่มีอยู่จริงให้อยู่ในรูปแบบของเหรียญดิจิทัล หรือที่เรียกกันว่า Tokenization ภายใต้การควบคุมดูแลของหน่วยงานตรวจสอบ (Guardian) ที่ทำหน้าที่ประเมินมูลค่าและให้การรับรองสินทรัพย์เหล่านั้น แม้ปัจจุบัน Asset-backed Tokens กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนำไปใช้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน Asset-backed Tokens จะเป็นทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีราคาสูง เช่น ที่ดิน หรือ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ในขณะที่เจ้าของสินทรัพย์หรือธุรกิจสามารถใช้ช่องทางนี้ในการเพิ่มสภาพคล่อง (Liquidity) ได้อีกด้วย
- Initial Coin Offering (ICO) – การระดมทุนแบบดิจิทัลด้วยการเสนอขายดิจิทัลโทเคน (Digital Token) ผ่านระบบบล็อกเชนต่อสาธารณะชน โดยผู้ระดมทุนเป็นผู้ออกดิจิทัลโทเคน และกำหนดเงื่อนไขผลตอบแทนให้อยู่ในรูปแบบต่างๆ เช่น ส่วนแบ่งรายได้ หรือผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจนั้นๆ ซึ่ง ICO เป็นทางเลือกใหม่ในการระดมทุนที่สะดวก รวดเร็ว และลดค่าใช้จ่ายในการระดมทุนได้จริง ด้วยเหตุนี้ การระดมทุนแบบดิจิทัลจึงได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพของต่างประเทศ สำหรับประเทศไทยเริ่มมีให้เห็นบ้างแล้ว เช่น SiriHub Token ที่เป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนตัวแรกของประเทศไทย และเหรียญบุพเพสันนิวาส 2 หรือ Destiny Token เป็นต้น
- การเชื่อมโยง Blockchain กับ Metaverse – การเปิดพื้นที่ให้สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) สามารถ Display ในโลก Metaverse โดยมี Blockchain เป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่ใช้ซื้อขายและเพิ่มสภาพคล่องให้กับ Non Fungible Token (NFT) ของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นๆ หากเป้าหมายของ Metaverse คือการสร้างโลกเสมือนจริง ที่มีเป้าหมายทางธุรกิจอยู่เบื้องหลัง การมีเทคโนโลยีพื้นฐานที่สามารถบริหารจัดการซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง และนี่คงเป็นเหตุผลว่า ทำไมการเชื่อมต่อ Blockchain กับ Metaverse นั้นไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินจริง แต่เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายเฝ้าจับตาดูอยู่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด และอย่างไร สังเกตได้จากจำนวนแบรนด์ชั้นนำที่เริ่มตบเท้าเข้ามาพัฒนาสินค้าดิจิทัลในรูปแบบของสินทรัพย์ NFT เพื่อรองรับการใช้งานใน Metaverse มากขึ้น เช่น Nike, Dolce & Gabbana และ MAC เป็นต้น ซึ่งการเชื่อมโยงนี้อาจจะเป็น Game Changer ของโลกธุรกิจในอนาคต
- Carbon-credit Market บทบาทใหม่ของ Blockchain – ด้วยคุณสมบัติด้านความโปร่งใส มีเสถียรภาพ และสามารถตรวจสอบได้ ทำให้ Blockchain ได้รับความสนใจในฐานะแพลตฟอร์มที่จะเข้ามาเป็นกระดานซื้อขาย Carbon-credit เพื่อบรรเทาปัญหาให้กับหลายอุตสาหกรรมที่ใช้ Carbon-credit เกินกำหนด โดยเฉพาะกลุ่มในประเทศตะวันตกที่มีความต้องการซื้อเครดิตการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากประเทศในกลุ่มอาเซียนและแอฟริกา ซึ่งปัจจุบันหลายฝ่ายกำลังร่วมมือกันในการกำหนดมาตรฐานต่างๆ เพื่อผลักดันให้เกิดการซื้อขาย Carbon-credit ได้จริง เพื่อเป็น Win-Win Solution ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมในหลายประเทศ
การปฏิวัติในโลกเทคโนโลยีสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันแบบครบวงจร ‘บลูบิค’ เห็นว่า การรับมือกับกระแสใหม่ของบล็อกเชนและการใช้เทคโนโลยีนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจนั้น สามารถทำได้โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจที่มีความพร้อมและมีองค์ความรู้ในอุตสาหกรรมนั้น และองค์กรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีบล็อกเชนและการตลาด เพราะ Blockchain ไม่ได้เหมาะกับทุกธุรกิจ ดังนั้นการต่อยอดธุรกิจโดยมีเทคโนโลยีนี้เป็นแพลตฟอร์มพื้นฐาน ต้องใช้ทั้งองค์ความรู้ของฝั่งธุรกิจที่มีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมนั้นๆ เป็นอย่างดี และมีฝั่งเทคโนโลยีที่สามารถออกแบบแอปพลิเคชันที่สามารถรองรับการใช้งานและเหมาะสมกับบริบทของอุตสาหกรรมดังกล่าว รวมถึงการกำหนดขอบเขตการใช้งานภายใต้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์โดยมืออาชีพที่มีความเข้าใจทั้งภาคธุรกิจและเทคโนโลยี ในการโปรโมทให้ธุรกิจดังกล่าวเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นจากความตื่นตัวและกระแสการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าหลายอุตสาหกรรมมีความพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งาน เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ ซึ่ง ‘บลูบิค’ พร้อมที่จะเติมเต็มความต้องการเหล่านั้น ด้วยองค์ความรู้ทั้งฝั่งเทคโนโลยีและการตลาด เพื่อเปิดโอกาสสู่การเติบโตร่วมกันในอนาคต