fbpx
เรื่องราวของเรา 7 กันยายน 2023

เปิดเหตุผลที่ Tech Talents ที่เคยลาออก เลือกกลับมา Bluebik

แม้ว่าใครๆ ก็อยากเข้ามาทำงานสาย Tech แต่การขาดแคลน Tech Talent ก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในแวดวง Tech อยู่ดี โดยรายงาน Future of Work: The Global Talent Crunch ระบุว่า ภายในปี 2030 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีตำแหน่งงานสาย Tech ว่างถึง 4.7 ล้านตำแหน่งทีเดียว

Tech Talent จึงเป็นที่ต้องการตัวอย่างมาก และพวกเขาเหล่านี้ก็สามารถเป็น “ผู้เลือก” ว่าจะทำงานที่บริษัทไหนที่ตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการทำโปรเจกต์ที่ท้าทาย ความก้าวหน้าในอนาคต หรือวัฒนธรรมองค์กรที่เข้ากับความเชื่อและไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

วันนี้ Bluebik​ อยากชวนไปพูดคุยกับ Tech Talent 3 คนจากทีม Digital Excellence & Delivery ที่เคยลาออกไปเพื่อค้นหาตัวตนและทดลองสิ่งใหม่ๆ ก่อนตัดสินใจกลับมาร่วมบ้าน Bluebik อีกครั้ง มาลองมองผ่านมุมมองของพวกเขากันว่า ทำไม Bluebik ถึงเป็นบริษัทสาย Tech ที่ตอบโจทย์คนตัวเลือกเยอะอย่างพวกเขามากที่สุด

นีม, Lead Business Analyst

ไปลองให้รู้

“ก่อนหน้านี้เป็น Senior Business Analyst อยู่ที่ Bluebik ได้ประมาณ 2 ปีกว่าๆ แล้วพอดีมีโอกาสเข้ามาทำงานสาย Data Quality แบบ In-house ก็เลยไปลองดู แต่พอไปทำจริงแล้ว Scope งานไม่เป็นอย่างที่คิด บวกกับงาน Data ค่อนข้าง Routine เลยได้รู้ว่า Data ไม่ใช่ทางของเรา”

งานที่ทำแล้วมีความสุข

“เราชอบงาน Business Analyst มากกว่า เพราะได้ใช้ความคิด ได้วิเคราะห์ Requirements ของลูกค้า ได้นำเสนอ Solutions มันมีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้คิดตลอดเลย งานไม่เป็น Routine เรารู้ตัวว่าเราเหมาะกับทางนี้มากกว่า ทำอะไรแล้วมีความสุขมันก็จะรู้”

ทีมที่ทำงานด้วยแล้วสบายใจ

“ช่วงที่ต้องตัดสินใจว่าจะย้ายงานไหม เราได้คุยกับพี่ที่เคยทำงานที่ Bluebik ด้วยกัน เราก็เลยนึกถึงทีมที่เคยทำงานด้วยกันและเข้ากันได้ดี รวมทั้งนึกถึงหัวหน้า ทั้งพี่ท็อป (ปองคุณ บัญญัตินพรัตน์) พี่โป้ง (ปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์, CTO) ซึ่งเป็นหัวหน้าที่ดี ช่วยแก้ปัญหาในการทำงานของเราได้ ก็เลยคิดว่าถ้ากลับมาทำที่ Bluebik คงเจอคนที่ทำงานด้วยแล้วสบายใจ

“เราชอบที่คนในทีมสนับสนุนกันมากๆ แต่ละคนจะไม่ได้ Concern แค่งานตัวเอง จะช่วยคิดเผื่อตำแหน่งอื่นๆ เสมอ จะไม่มีแยกว่าเรื่องนี้เราไม่พูด ไม่คิด เพราะไม่ใช่หน้าที่เรา แล้วก็ในทีมเราจะ Sync Up งานกันตลอด เข้าใจภาพเดียวกันตลอด มีอะไรก็อัปเดตกัน” 

Enjoy ชีวิตในทุกวัน

“ก่อนหน้านี้เราเคยทำงานบริษัท Tech มา 2-3 ที่ แต่ละที่ก็จะไม่เหมือนกันเลย แต่เรา Fit In กับ Bluebik เพราะสำหรับเรา เรารู้สึกว่าที่นี่ไม่ใหญ่จนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เล็กเป็น Start Up และก็มีความโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ มีการขยายบริษัท มีการเติบโตที่มั่นคง 

“เรื่อง Generation Gap ที่นี่จะไม่มีเลย อย่างในทีมเราก็คุยได้ทุกเรื่อง นอกจากเรื่องงานก็คุยเล่นกันได้ ไม่ค่อยเครียด เฮฮา ไปกินข้าว ไปตี้กันบ่อยๆ เราก็เลยรู้สึก Enjoy ชีวิตในทุกวัน”

วิน, Lead Back-End Engineer

ลองไปเรียนรู้

“หลังเรียนจบ เราทำงานเป็น Back-End Engineer ที่ Bluebik อยู่ราว 2 ปี แต่เราอยากรู้ว่า Process ของบริษัทอื่นๆ และการทำ In-house Product เป็นอย่างไร อยากลองไปเรียนรู้ดู ก็เลยออกไปลองทำที่องค์กรใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งทำให้รู้ตัวว่าชอบการทำงานที่ Bluebik มากกว่า เพราะเราชอบการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ปรับตัวไปเรื่อยๆ ตาม Requirements ของลูกค้าแต่ละเจ้า เราได้ Challenge ตัวเองเยอะดี”

เติบโตกว่าเดิม

“กลับมาที่ Bluebik เราเป็น Lead Back-End Engineer มีสิ่งที่เหมือนเดิมอย่างการ Implement Feature ตามที่ SA หรือ BA มอบหมายมา แต่ก็มีภาระความรับผิดชอบมากขึ้น คือต้องดูแลภาพรวมของทีม คิด Process การทำงาน ซึ่งเราก็ได้ปรับเอา Process ที่ไปเรียนรู้มาจากองค์กรอื่นมาใช้กับที่นี่ด้วย รวมถึงช่วยโค้ชน้องๆ ในทีม ปลูกฝังทัศนคติที่ดีในการทำงาน แล้วก็มีพูดคุยกับลูกค้าด้วย”

มีพื้นที่ให้พัฒนา

“เรามองว่า Bluebik ไม่ใหญ่เกินไป แต่ไม่เล็กเกินไป บริษัทเองกำลังเติบโต และให้พื้นที่เราในการลองผิดลองถูก ในทางกลับกันถ้าเราทำงานองค์กรใหญ่ที่ค่อนข้าง Strict เราก็จะแค่ทำตามหน้าที่ไป ไม่มีพื้นที่ในการลองอะไรใหม่ๆ หรือช่วยพัฒนาองค์กร” 

เปิดกว้างและรับฟัง

“เราชอบที่คนที่ Bluebik เปิดกว้างและรับฟัง เวลามีปัญหาอะไรเราสามารถ Discuss กันได้ ต่อให้ไม่ใช่หน้าที่เราโดยตรง ไม่มีขีดเส้นว่า ‘ฉันทำหน้าที่นี้ ฉันก็จะดูแค่นี้’ พูดภาษาชาวบ้านคือแย่งกันทำงาน ไม่เกี่ยงว่าของใครของมัน” 

เซ้นท์, Lead Solution Architect

ยิ่ง Product เยอะ ยิ่งรู้เยอะ

“ครั้งแรกผมทำงานที่ Bluebik 3 ปีกว่า ตำแหน่งสุดท้ายคือ Senior Back End Engineer ด้วยความที่ Bluebik เป็น Consultant ให้กับบริษัทอื่นๆ ผมเลยอยากรู้ว่าบริษัทอื่นๆ ที่เขาทำ Product ของตัวเองจะมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ก็เลยไปลองทำบริษัทหนึ่ง เลยได้พบว่าชอบแบบ Bluebik มากกว่า เพราะเวลาเปลี่ยน Product ที่ทำไปเรื่อยๆ มันจะได้ความรู้เยอะขึ้น”

ก้าวหน้าไปอีกขั้น

“ผมกลับมาทำงานในตำแหน่ง Lead Solutions Architect ซึ่งเป็นงานที่ได้ทำทั้งฝั่ง Discovery และ Delivery ต้องออกแบบภาพรวมของ Project ก่อนเริ่ม เช่น ต้องเชื่อมต่อกับใคร ต้องมีส่วนประกอบอะไรในระบบบ้าง เราจะ Implement อย่างไร จะ Test อย่างไร จะ Deliver Product อย่างไร ทำให้เราต้องรู้กว้างขึ้น ได้ทำอะไรใหม่ๆ ได้หาความรู้เพิ่มเติมตลอด ถือว่า Step Up จากเดิมเยอะ”

ไม่ใช่ที่ไหนก็ได้

“Solutions Architect ไม่ใช่ตำแหน่งงานที่มีกันทุกบริษัท จะมีก็แต่บริษัทใหญ่ๆ โชคดีมากที่ Bluebik เปิดตำแหน่งนี้ เพราะตอนตัดสินใจจะย้ายงาน ผมอยากทำงานกว้างขึ้นกว่าขอบเขตของ Back-End Engineer แล้ว ก็เลยได้กลับมาที่ Bluebik”

กลับมาแล้วดีกว่าเดิมอีก

“ผมชอบที่ Bluebik ไม่มี Hierarchy คือมันมีชื่อตำแหน่งไว้ตามผังเฉยๆ แต่เวลาทำงานด้วยกันจริงๆ เราคุยกันง่ายมาก ไม่มีความรู้สึกว่าต้องข้ามชั้นขึ้นไปคุย แค่ไปออฟฟิศก็เจอกับพี่ๆ C-Level ได้ตลอด อย่างพี่โป้งนี่ชอบเจอกันที่ห้องน้ำ ยังแซวกันอยู่เลย 

“ส่วนเรื่องสวัสดิการก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนผมอยู่ครั้งแรกยังมีไม่เยอะขนาดนี้ ตอนนี้มีทั้งส่วนลดพนักงาน มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำ เรียกว่าสวัสดิการดีกว่าเดิมอีก” 

เห็นแล้วใช่ไหมว่ามีหลากหลายเหตุผลที่ Tech Talent ที่ไปอัปเลเวลมาอยากกลับมาทำงานที่ Bluebik อีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยเนื้่องานที่ตรงใจ ความท้าทายของโปรเจกต์ที่ได้ทำ โอกาสในการก้าวหน้าไปอีกขั้น ตลอดจนวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง ไร้ Generation Gap รวมถึงสวัสดิการดีๆ ที่เราพยายามสรรหามาเพื่อดูแลทุกคนให้ดีที่สุด

หากใครอ่านมาถึงจุดนี้แล้วสนใจมาเป็นส่วนหนึ่งของ Bluebik สามารถดูตำแหน่งงานที่กำลังเปิดรับได้ที่ https://bluebik.com/career รอรับอีเมลจากทุกคนอยู่นะ!