fbpx
เรื่องราวของเรา 9 พฤศจิกายน 2023

“เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ แล้วมีความสุข” ฟังประสบการณ์ Lifelong Learner แบบฉบับ “พี่ยิ้ง”

ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าการเรียนรู้ตลอดชีวิตหรือ Lifelong Learning เป็นเรื่องสำคัญจำเป็น ไม่ว่าหัวข้อที่เรียนรู้จะเกี่ยวข้องกับอาชีพการงานหรือความสนใจส่วนตัวก็ตาม

แต่สำหรับหลายคน การเรียนรู้ก็ยังคงเป็น “ยาขม” ที่กลืนลงคอได้ยากเหลือเกิน บางคนพอเปิดหนังสืออ่านปุ๊บก็หาวทันที บางคนสมัครคอร์สเรียนออนไลน์ไว้นานแล้ว แต่เรียนค้างอยู่ที่บทที่ 2 มาซักพักแล้ว 

ไม่ว่าคุณจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เราคือเพื่อนกัน 

แต่อย่าเพิ่งท้อแท้และหมดไฟกับการเรียนรู้ เพราะในวันนี้ “พี่ยิ้ง” หรือ “สุพรรณ ฟ้ายง” Associate Director, Head of Technical Education แห่งทีม HR จะมาแบ่งปันประสบการณ์การเป็น Lifelong Learner ที่เน้นการเรียนรู้และจัดตารางเรียนด้วยตัวเอง โดยพี่ยิ้งนั้นเป็นเจ้าของ Certification ด้าน IT จำนวนมากถึง 17 ใบ รวมถึงไม่นานมานี้ยังเพิ่งคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากการแข่งขัน AWS DeepRacer อีกด้วย

ว่าแล้วก็ไปฟังประสบการณ์และซึมซับแพสชันในการเรียนรู้แบบฉบับพี่ยิ้งพร้อมๆ กันเลย!

ก่อนจะชอบก็ไม่ชอบมาก่อน

แม้ปัจจุบันจะเป็นคนชอบเรียนรู้ขนาดนี้ แต่พี่ยิ้งออกตัวว่า สมัยเด็กไม่ได้ชอบเรียนขนาดนั้น แถมเรียนไม่ค่อยเก่งอีกต่างหาก

“สมัยเด็กๆ ผมไม่ได้เรียนเก่ง มีวิชาเดียวที่ทำได้ดีคือวิชาเลข แต่พอขึ้น ม.ปลายแล้วค้นพบอีกวิชาหนึ่งที่ชอบเรียนได้ดี และทำให้สนุกกับการเรียนขึ้นมา วิชานั้นคือฟิสิกส์

“การทำฟิสิกส์ได้ดีจะต่างจากเลขนิดนึง ตอนเรียนเลขบางทีเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันสัมพันธ์กับเรื่องต่างๆ อย่างไร แต่พอเป็นฟิสิกส์เราจะนึกออกว่ามันสัมพันธ์กับเรื่องรอบตัวเราอย่างไร เช่น เราสามารถคำนวณการเคลื่อนที่ของดวงดาวในอวกาศได้ แล้วรู้เลยว่าตอนนี้มันอยู่จุดไหน หรือจะส่งแสงและพลังงานมาให้เราได้มากแค่ไหน

“การเรียนฟิสิกส์เลยจุดประกายผมมาก จากที่ไม่ชอบเรียนก็กลายเป็นชอบเรียน และค้นพบว่าการเรียนอะไรใหม่ๆ แล้วเข้าใจมันจริงๆ สร้างความสุขและสร้างคุณค่าให้เราได้”

จากนักเรียนรู้สู่ติวเตอร์ประจำคณะ

เมื่อเข้าเรียนระดับอุดมศึกษาที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือ จากคนที่ชอบเรียนรู้ พี่ยิ้งกลายเป็นติวเตอร์ชื่อดังประจำคณะ 

“มันเริ่มจากมีคนมาขอให้ติวให้หน่อย ก็เลยลองดู ผมก็เลยค้นพบว่ามันมีข้อดี คือทำให้เข้าใจเรื่องที่เรียนมากขึ้น ปกติเวลาเรียนเรื่องใหม่ๆ ไม่ว่าจะอ่านหรือดูวิดีโอก็จะเข้าใจระดับหนึ่ง ทีนี้พอเข้าใจแล้วก็ต้องฝึกใช้ เช่น ทำโปรเจกต์ จากนั้นขั้นกว่าของการฝึกใช้คือการสอนคนอื่น เพราะก่อนจะสอนได้เราต้องตกผลึกก่อน เราต้องคิดว่าจะเล่าเรื่องที่เราเข้าใจให้คนอื่นฟังอย่างไร จัดระเบียบให้เป็นชิ้นเป็นอัน กลั่นให้ได้ประโยคที่เราจะพูดจริงๆ มันทำให้เราเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นอีก” 

คลาสติวของพี่ยิ้งนั้นเป็นที่เลื่องลือในภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มาก โดยครั้งหนึ่งเคยมีคนเข้าร่วมสูงสุดราว 30 กว่าคน ถึงขึ้นเปิดห้องเลกเชอร์กันจริงจังเลยทีเดียว และแน่นอนว่าหนึ่งในคนที่เคยเข้าคลาสติวพี่ยิ้งด้วยก็คือพี่โบ๊ท (พชร อารยะการกุล) CEO ของเรานั่นเอง

สร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ให้ตัวเอง

ใน Bluebik พี่ยิ้งน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่มี Certification ด้าน IT มากติดอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นของ Google Cloud, Salesforce, Microsoft, AWS และอื่นๆ อีกมากมาย

พี่ยิ้งบอกว่า จริงๆ แล้วการมีประกาศณียบัตรประดับ Linkedin นั้นเป็นแค่ของแถม แต่ฟังก์ชันและประโยชน์หลักๆ ของการสอบ Certification เหล่านี้คือการสร้างแรงจูงใจให้ตัวเองเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ได้สำเร็จ

“หลายครั้งการเรียนรู้ด้วยตัวเองไม่สำเร็จเพราะเราไม่มีตารางเวลาและสโคปเนื้อหา เราไม่รู้ว่าต้องเรียนเมื่อไหร่ และเรียนมาก-น้อยแค่ไหน มันมีโอกาสที่จะเรียนเยอะเกินไปจนไม่จบซักที หรือเรียนน้อยไป จบมาก็ไม่ชำนาญ

“การสอบ Certification เป็นการหลอกล่อให้ตัวเองเรียน เพราะการจะเตรียมตัวสอบ เราจะรู้สโคปชัดเจนว่าต้องเรียนแค่ไหนให้สอบผ่านตามมาตรฐานที่เขาวางไว้ มันจะไม่มากไม่น้อยเกินไป อีกอย่างคือเราเสียตังค์ไปสอบ มีวันสอบชัดเจน เราก็ต้องมีตารางการอ่านที่ชัดเจน เช่น เรียนวันเสาร์ 3 ชั่วโมง เรียนวันอาทิตย์ 3 ชั่วโมง เพราะถ้าสอบไม่ผ่านจะเสียใจ การสอบจึงกำหนดทั้งเนื้อหาและตารางเรียนให้เรา”

เมื่อจำลองสถานการณ์คล้ายๆ การเรียนหนังสือที่ต้องสอบให้ผ่านเพื่อเรียนวิชานั้นๆ ให้จบ เราจึงมีโอกาสที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองจนสำเร็จมากขึ้นนั่นเอง รู้เคล็ดลับจากพี่ยิ้งแล้วก็ลองเอาไปใช้กันดูนะ

เรียนแล้วแข่งขัน สนุกแน่นอน

นอกจากการเรียนแล้วสอบ พี่ยิ้งยังมีอีกเคล็ดลับหนึ่งที่ทำให้การเรียนรู้สนุกขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว นั่นคือการเรียนแล้วไปแข่งขัน อย่างไม่นานมานี้ที่พี่ยิ้งได้ไปเข้าร่วมการแข่งขัน AWS DeepRacer ซึ่งจัดโดย Amazon Web Service

AWS DeepRacer เป็นการแข่งขันรถจิ๋วโดยการใช้ AI แบบ Reinforcement Learning หรือการสอน AI ด้วยการกำหนด Reward Function ซึ่งความท้าทายอยู่ที่จะนิยามฟังก์ชันแบบไหนให้ AI สามารถพารถวิ่งได้เร็วที่สุดโดยไม่ตกขอบถนน

“ทาง AWS จัดเตรียมเครื่องมือต่างๆ ให้เรารันโมเดล AI บนรถได้ง่ายมาให้อยู่แล้ว เช่น ตัวรถจะมี Input เป็นภาพจากกล้อง สิ่งที่เราต้องทำคือ 1. เขียน Reward Function เพื่อบอกว่าเราจะให้รางวัลกับพฤติกรรมต่างๆ อย่างไร 2. กำหนด Action Space เพื่อบอกว่ารถทำอะไรได้บ้าง และ 3. ระบุ Hyperparameter ในการเทรน

“สิ่งที่ผมทำคือทดลอง Reward Function และ Action Space หลายๆ แบบ รวมถึงเทรนบนสนามหลายๆ สนามตอนที่ทดลองบน Simulation เพื่อพัฒนาโมเดล AI ที่ทำงานได้ดีที่สุด”

และด้วยการฝึกฝนจนเข้าใจ Reinforcement Learning ทั้งในเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติเช่นนี้นี่เองที่ทำให้พี่ยิ้งคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 มาได้ในที่สุด

มาเรียนกันเถอะชาว Bluebik!

เพราะสนุกกับการเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้ พี่ยิ้งจึงมีความสุขมากที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็น Associate Director, Head of Technical Education ประจำ Bluebik 

ความสนุกและความท้าทายในทุกวันนี้ของพี่ยิ้งคือการดูว่าแต่ละทีมต้องการเรียนรู้เรื่องอะไร แล้วจัดทำเนื้อหาที่ตอบโจทย์ความต้องการนั้นๆ มาสอนชาว Bluebik โดยแบ่งเป็นการจัดคลาสสอนสดสำหรับคนชอบเรียนกับเพื่อนและชอบซักถามในคลาส รวมถึงการทำคอร์สเรียนแบบ On-Demand สำหรับคนที่ต้องการความยืดหยุ่นด้านเวลาและความเร็วในการเรียน

นอกจากนี้ พี่ยิ้งยังสนับสนุนให้ทุกคนเรียนหัวข้ออื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องอาชีพการงานด้วย เพราะการเรียนเพื่อมีความสุขไปกับการเรียนรู้เนื้อหาแปลกใหม่ก็เป็นแพสชันอย่างหนึ่งในชีวิตได้เช่นกัน

“การตั้งโปรแกรมการเรียนให้ตัวเองเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก เพราะการเรียนรู้จากงานที่ทำอาจไม่ทัน ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ โดยไม่ต้องรอ”

แล้วมาเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิตไปด้วยกันนะ!