fbpx
บทความ 28 มิถุนายน 2023

เจาะลึก ‘Data Intelligence’ ตัวช่วยปลดล็อคศักยภาพ การจัดการข้อมูลบน Cloud & On-Premise 

ในปัจจุบันนอกจากองค์กรจะต้องรับมือกับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวันแล้ว การรักษาความปลอดภัยและบริหารจัดการข้อมูลเหล่านั้นให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด กำลังเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ของฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ

การเลือกโซลูชันที่ตอบโจทย์ จึงเป็นหนทางที่จะเข้ามาช่วยองค์กรรับมือกับความท้าทายนี้ แต่คำถามสำคัญ คือ “โซลูชันไหนเหมาะสมที่สุด” และเพื่อตอบคำถามนี้ บลูบิค จะพาไปรู้จักกับ SAP Data Intelligence หรือ SAP DI โซลูชันที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อปลดล็อคศักยภาพการบริหารจัดการข้อมูลสำหรับองค์กรที่สามารถทำงานได้ กับทั้งระบบที่อยู่บน Cloud และ On-Premise

SAP DI คืออะไร

SAP DI เป็นเครื่องมือ (Tool) ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก SAP Data Service หรือ SAP DS ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายและเป็นที่คุ้นเคยของผู้ใช้งานระบบ SAP มาอย่างยาวนาน

คุณสมบัติเด่นของ SAP DI คือ เป็น Cloud-Based Solution ที่สามารถทำงานกับระบบข้อมูลบนแพลตฟอร์ม On-Premise ได้ด้วย ดังนั้น SAP DI ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญในการบริหารจัดการข้อมูล ที่สามารถตอบโจทย์เทรนด์การทำธุรกิจที่มีการใช้งานทั้งระบบ Cloud และ On-Premise รวมถึงรับมือกับความท้าทายในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ดังต่อไปนี้  

  • การรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อน และมีรูปแบบ/โครงสร้างที่แตกต่างกัน
  • การรวบรวมข้อมูลได้อย่าง รวดเร็ว แม่นยำ และสะดวกในการนำไปใช้งานต่อ
  • ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล (Data Breach) 

SAP DI ทำได้มากกว่าที่คิด 

ผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยมักเข้าใจผิดว่า SAP DI เป็นเพียง Data Ingestion Tool ที่ทำหน้าที่อ่านข้อมูลจากระบบต้นทาง แล้วจัดส่งไปเก็บยังฐานข้อมูลปลายทาง แต่ในความเป็นจริงแล้วศักยภาพการจัดการข้อมูลของ SAP DI นั้นมีมากกว่าที่คิด ซึ่งสามารถอธิบายโดยสังเขปดังนี้ 

·   Data Ingestion : Data Ingestion เป็นหัวใจสำคัญของการทำ Data Management ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่า SAP DI ทำทำหน้าที่ Data Ingestion ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะ SAP DI มีความเข้าใจในระบบและสถาปัตยกรรมข้อมูล (System and Data Architecture) ของระบบ SAP เป็นอย่างดี ทำให้สามารถดึงข้อมูลที่มีความซับซ้อนและมีปริมาณมหาศาลในระบบ SAP ได้อย่างถูกต้อง

·   Data Transformation : SAP DI สามารถทำ Data Transformation ไปพร้อม ๆ กับการทำ Data Ingestion ได้ ยกตัวอย่างเช่น การปรับ Data Format ต่าง ๆ และการคำนวณค่าบางอย่างตามสูตรที่กำหนดไว้ เป็นต้น 

·   Data Quality Monitoring : SAP DI สามารถกำหนดเกณฑ์ในการวัดคุณภาพข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตามต้องการ และแสดงผลลัพธ์ในรูปแบบ Dashboard เพื่อให้ง่ายต่อการนำข้อมูลไปใช้งานต่อ โดยเฉพาะการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ

·   Data Cleansing : SAP DI สามารถรองรับการทำ Data Cleansing เพื่อยกระดับคุณภาพของข้อมูลที่จะถูกนำไปใช้ในอนาคต โดยผู้ใช้งานสามารถกำหนดรูปแบบและเงื่อนไขในการทำ Data Cleansing ได้ตามต้องการ

ขอบเขตความสามารถในการอ่านข้อมูลของ SAP DI 

นอกจากความสามารถในการอ่านข้อมูลที่อยู่บนระบบ SAP ได้อย่างครบถ้วนครอบคลุมตั้งแต่ SAP Table, SAP CDS View จนถึง SAP BW ที่อยู่บนระบบ Cloud และ On-Premise แล้ว SAP DI ยังสามารถทำงานร่วมกับแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น SQL, Oracle และ ไฟล์ข้อมูลประเภทต่าง ๆ (Excel, CSV, และ Text) รวมถึงข้อมูลที่จัดเก็บบนแพลตฟอร์มของ Cloud อย่าง Google, AWS และ Azure เป็นต้น 

SAP DI เหมาะกับองค์กรแบบใด 

เนื่องจาก SAP DI ถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานร่วมกับแหล่งข้อมูลที่หลากหลายทั้งบนระบบ Cloud และ On-Premise จึงทำให้ SAP DI เหมาะกับองค์กรที่ต้องบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลและซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรที่ใช้ระบบ SAP เป็น ERP ขององค์กรยิ่งมีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก เนื่องจาก SAP DI ถูกออกแบบโดย SAP จึงทำให้สามารถทำงานร่วมกับระบบ SAP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บูลบิค: Implementer รายแรกของไทยที่ติดตั้ง SAP DI สำเร็จ

นอกจากคุณสมบัติของ Tool จะต้องดีแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ ประสบการณ์ของ Implementer ด้วยเหตุนี้ บลูบิค จึงได้รับความไว้วางใจจาก SAP Thailand ให้เป็นผู้ติดตั้ง SAP DI เพื่อโครงการ Data Management บนแพลตฟอร์ม Cloud เป็นรายแรกของประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานระบบดังกล่าว (Go-Live) ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยลูกค้าที่เป็นองค์กรชั้นนำระดับประเทศ 

ปัจจัยที่ทำให้ SAP Thailand ไว้วางใจใน บลูบิค คือ ความรู้และความเชี่ยวชาญในระบบ SAP ทั้งในแง่กระบวนการทำงานของ SAP (Functional Requirements) และทางเทคนิคชั้นสูง ( Advanced Technical Requirements) เป็นอย่างดี รวมถึงการทำงานเป็น Teamwork ระหว่าง SAP Thailand และทีมงานของบลูบิคที่มีความพร้อมและประสบการณ์ในการบริหารโครงการ Data Management ขนาดใหญ่ จึงทำให้ลูกค้าสามารถใช้ SAP DI ได้เต็มประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการในทุกมิติ 

สุดท้ายนี้ หากลูกค้าท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือสนใจติดตั้งระบบ SAP DI สามารถติดต่อได้ที่ Bluebik โดยบริษัทฯมีทีมงานพร้อมให้คำปรึกษาและมีบริการแบบครบวงจรรองรับทุกความต้องการของลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม สามารถติดต่อเข้าไปพูดคุยกับ Bluebik ผู้เชี่ยวชาญในการประยุกต์ใช้งานโซลูชันได้ที่ [email protected] หรือลงทะเบียนความสนใจที่ https://forms.gle/CaaR5BWeBvP3C6ia6