บลูบิค (Bluebik หรือ “BLU”) บริษัทคอนซัลต์ชั้นนำผู้ให้บริการที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เดินหน้ายื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 25 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท
โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ปีนี้ เป้าหมายในการระดมทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ มุ่งสู่การเป็นบริษัทคอนซัลต์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันชั้นนำระดับภูมิภาค พร้อมชูจุดแข็งธุรกิจผ่าน 5 บริการครอบคลุมทุกกระบวนการทรานส์ฟอร์ม เพื่อสร้างคุณค่าและผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้ให้องค์กรยุคใหม่
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้อย่างครบวงจร เพื่อยกระดับขีดความสามารถและปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจให้กับองค์กรขนาดใหญ่ มีความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุน ได้แก่
- สรรหาบุคลากรคุณภาพสูงและเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัล อาทิ องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบล็อกเชน เพื่อรองรับการขยายขอบเขตการให้บริการสำหรับภาคธุรกิจที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น
- พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลเพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านอินเทอร์เน็ต (Software-as-a-Service หรือ SaaS) รวมทั้งจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Research and Development Center) ที่จะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้านดิจิทัลอย่างครบวงจร
- เสริมศักยภาพการบริหารจัดการภายใน ผ่านการยกระดับระบบซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการเติบโตขององค์กร
- ปรับปรุงพื้นที่สำนักงานเพื่อรองรับการขยายจำนวนบุคลากรในอนาคต
- ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องและธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และกระจายความเสี่ยงจากภาวะความผันผวนของตลาด
บลูบิคมีบริการหลักทั้งสิ้น 5 ด้าน ดังนี้
- บริการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ (Management Consulting) ทำหน้าที่ค้นหาปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจ กำหนดทิศทางกลยุทธ์ด้านต่าง ๆ รวมถึงวิเคราะห์ผลกระทบและโอกาสเชิงเศรษฐศาสตร์จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มที่สามารถจับต้องได้จากการลงทุนของเทคโนโลยี ที่จะทำให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด (Exponential Growth)
- บริการที่ปรึกษาการบริหารจัดการโครงการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic PMO) ทำหน้าที่บริหารโครงการขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูงให้กับองค์กรขนาดใหญ่ และการวางโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กร ซึ่งจะช่วยให้สามารถดำเนินงานได้ตามกรอบระยะเวลาและงบประมาณที่กำหนดไว้
- บริการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Digital Excellence and Delivery) ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านดิจิทัลครบวงจรและพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับองค์กร อาทิ การออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้งานและส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับระบบ (UX/UI) บนหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานอย่างไร้รอยต่อ (Seamless Experience) โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มความคล่องตัวให้กับธุรกิจ
- บริการที่ปรึกษาด้านการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Big Data & Advanced Analytics) ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมทั้งให้คำแนะนำในการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล เพื่อขับเคลื่อนการนำข้อมูลไปใช้สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม (Data-Driven Organization)
- บริการด้านทรัพยากรบุคคลชั่วคราวที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Staff Augmentation) ทำหน้าที่ให้บริการจัดหาพนักงานผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอที อาทิ โปรแกรมเมอร์ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อไปปฏิบัติงานตามกำหนดระยะเวลาจนจบโครงการ
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 – 2563 มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 132.76 ล้านบาท 184.94 ล้านบาท และ 200.53 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ร้อยละ 22.90ขณะเดียวกันมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19.22 ล้านบาท 31.71 ล้านบาท และ 44.29 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ร้อยละ 51.81 ซึ่งเป็นผลจากกระแสการเปลี่ยนแปลงโลก (Mega Trends) ที่ผลักดันให้องค์กรธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล หรือ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยแสวงหาประโยชน์จากเทคโนโลยี ผนวกกับความเชี่ยวชาญของบลูบิคในฐานะผู้ให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี จึงสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“จุดแข็งที่ทำให้ บลูบิค เป็นบริษัทคอนซัลต์ที่สามารถให้คำปรึกษาด้านการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันได้อย่างครบวงจร คือความเข้าใจบริบทการทำธุรกิจในประเทศไทย มีบุคลากรคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเทียบชั้นบริษัทระดับโลก และตามทันการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของโลกธุรกิจ ทำให้เราสามารถเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตให้ธุรกิจไทยได้อย่างแท้จริง จากความสำเร็จในการให้บริการลูกค้าองค์กรภายในประเทศ ทำให้บลูบิคมุ่งมั่นจะก้าวไปสู่การเป็นบริษัทคอนซัลต์ชั้นนำระดับภูมิภาค เพื่อนำองค์ความรู้และคุณภาพการทำงานระดับมาตรฐานสากล ไปสร้างคุณค่าทางธุรกิจให้กับองค์กรในหลากหลายภาคอุตสาหกรรม ให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวในยุค Digital Economy” นายพชร กล่าว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทฯ สามารถศึกษารายละเอียดได้ที่
- Facebook Page: Bluebik Group
- LinkedIn: Bluebik Group
- Telephone : +66 (0) 2 636 7011
- Mail : [email protected]