fbpx
บทความ 20 มิถุนายน 2024

ความจำเป็น & โอกาสธุรกิจจาก AI สร้างสมดุลนวัตกรรมในธุรกิจพลังงาน

ทุกวันนี้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งกำลังเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงและทรานส์ฟอร์มกระบวนการทำงานต่างๆ ในหลายภาคธุรกิจ สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานก็เช่นกัน AI สามารถเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ และสร้างกระบวนการทำงานที่ยั่งยืนในระยะยาว 

จากบทบาทของ AI ที่กำลังเพิ่มขึ้น บลูบิคจึงอยากชวนมาดูโอกาสที่เกิดขึ้นจากการนำ AI มาปรับใช้ และตัวอย่างการใช้งาน (Use cases) ที่น่าสนใจในภาคธุรกิจพลังงาน 

โอกาสจาก AI ในอุตสาหกรรมพลังงาน

  • ผลิตพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

AI สามารถช่วยประมวลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพลังงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลประวัติการใช้พลังงาน ข้อมูลเหตุไฟฟ้าขัดข้องหรือมีการใช้ไฟมากเกินไป เป็นต้น โดย AI สามารถระบุแพทเทิร์นและการใช้พลังงานในส่วนต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการผลิตและการจ่ายพลังงานไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ต่างๆ ที่มีความต้องการใช้พลังงานแตกต่างกัน 

  • ลดการปล่อยคาร์บอน 

การนำ AI มาในใช้ภาคอุตสาหกรรมพลังงานจะช่วยกำหนดปริมาณการใช้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละช่วงเวลาและในแต่ละพื้นที่ ทำให้สามารถปรับการผลิตพลังงานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ โดยไม่จำเป็นต้องผลิตไฟฟ้าเพิ่มจนเกินความจำเป็น ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศได้ นอกจากนี้ AI ยังนำไปใช้ช่วยคาดการณ์ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ผลิตไฟฟ้า เช่น พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม ซึ่งจะช่วยให้วางแผนการผลิตพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและใช้แหล่งพลังงานทดแทนได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

  • ลดต้นทุนการผลิตพลังงาน

เทคโนโลยี AI สามารถช่วยคาดการณ์อุปสงค์และอุปทานพลังงานให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ทำให้ช่วยให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ด้วย เช่น ธุรกิจพลังงานสามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการซ่อมบำรุงเครื่องจักรจากการใช้ Predictive AI ในการตรวจจับและจัดการกับอุปกรณ์ที่เสี่ยงทำงานผิดพลาดได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ ซึ่งจะช่วยป้องกันการซ่อมแซมที่ใช้ค่าใช้จ่ายสูงและการสูญเสียเงินในกรณีที่ต้องหยุดทำงาน นอกจากนี้ เมื่อต้นทุนในการผลิตพลังงานลดลง ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถคิดค่าบริการลูกค้าที่มีราคาย่อมเยาลงได้ 

6 Use cases ของ AI ที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมพลังงาน 

  • วิเคราะห์และจัดการข้อมูลด้านพลังงาน 

ธุรกิจพลังงานมีข้อมูลปริมาณมหาศาล แต่หลายครั้งยังไม่สามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบ และการไม่สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนี่คือจุดที่ AI เข้ามาช่วยได้ โดยเทคโนโลยี AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว จัดประเภท และค้นหารูปแบบและความผิดปกติ ทำให้ง่ายต่อการค้นหาข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงและปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานขององค์กร 

เมื่อนำข้อมูลภายในที่รวบรวมโดยผู้ให้บริการพลังงานและข้อมูลของภาคอุตสาหกรรมที่เปิดเผยต่อสาธารณะมาวิเคราะห์ร่วมกัน AI สามารถช่วยวิเคราะห์อย่างละเอียดและแนะนำการปรับปรุงการดำเนินงานของธุรกิจในปัจจุบันได้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องความต้องการพลังงาน การบำรุงรักษาอุปกรณ์ ประสิทธิภาพการผลิตพลังงาน

ปริมาณของเสียที่เกิดขึ้น แหล่งพลังงานหมุนเวียนและไม่หมุนเวียน การซื้อขายและแนวโน้มการกำหนดราคาพลังงาน และความเสี่ยงในอุตสาหกรรม เป็นต้น

  • จัดการระบบ Smart Grid

AI สามารถเข้ามาช่วยบริหารจัดการสมาร์ทกริด (Smart Grid) ซึ่งเป็นระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีหลากหลายประเภทเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยครอบคลุมตั้งแต่การประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีตลอดทั้งห่วงโซ่ของระบบไฟฟ้าตั้งแต่การผลิตไฟฟ้า การส่งไฟฟ้า การจำหน่ายไฟฟ้า ไปจนถึงภาคส่วนของผู้บริโภค ได้อย่างชาญฉลาด โดยอัลกอริทึ่ม AI สามารถคาดการณ์รูปแบบการใช้พลังงานโดยใช้ข้อมูลในอดีตและข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้หน่วยงานสาธารณูปโภคสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในลักษณะเดียวกัน AI ยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากรได้อีกด้วย เช่น ในช่วงที่มีความต้องการสูง AI สามารถปรับปรุงการกระจายไฟฟ้าให้มั่นใจว่าไฟฟ้าจะถูกส่งไปยังพื้นที่ที่ต้องการมากที่สุดและป้องกันความเสี่ยงของการเกิดไฟฟ้าดับ

ไม่เพียงเท่านั้น สมาร์ทกริดที่มีการใช้ AI สามารถตรวจจับข้อผิดพลาดหรือการหยุดชะงักของกระบวนการทำงานได้ด้วย เช่น อุปกรณ์ไม่ทำงานหรือการผลิตไฟฟ้าขัดข้อง โดยอัลกอริทึ่ม AI สามารถระบุตำแหน่งที่เกิดปัญหาและปรับกระบวนการเพื่อไม่ให้การทำงานหยุดชะงัก 

  • ช่วยบำรุงรักษาแบบ Predictive Maintenance

AI สามารถช่วยธุรกิจพลังงานคาดการณ์ได้ว่าอุปกรณ์เครื่องจักรของมีแนวโน้มที่จะเสียหายหรือจำเป็นต้องซ่อมบำรุงเมื่อใด หรือที่เรียกว่า Predictive Maintenance โดย Machine learning สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากจากแหล่งต่าง ๆ เช่น สถิติการใช้งาน ข้อมูลสภาพอากาศ และบันทึกการซ่อมบำรุงในอดีต เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง วิธีนี้ช่วยลดเวลาที่อุปกรณ์ไม่สามารถใช้งานได้ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม และปรับปรุงความน่าเชื่อถือโดยรวมของโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

เมื่อสามารถระบุและแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ Predictive Maintenance จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้อย่างมาก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องจักรบ่อย ส่งผลให้ต้นทุนในการบำรุงรักษาลดลง อีกทั้งยังลดการใช้ทรัพยากร จากการที่ไม่ต้องผลิตอุปกรณ์ใหม่ออกมาเพื่อใช้ทดแทน 

  • พัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายพลังงาน

AI สามารถใช้วิเคราะห์ความซับซ้อนของตลาดในการซื้อขายพลังงาน โดยประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับแนวโน้มราคา ความต้องการ และอุปทาน ทำให้บริษัทพลังงานสามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูลและมีกำไร ขณะเดียวกัน AI ยังนำไปใช้จัดการความเสี่ยงได้ด้วยเช่นกัน โดยประเมินความผันผวนและความไม่แน่นอนของตลาดล่วงหน้า ด้วยเหตุนี้ การซื้อขายโดยใช้ AI จึงดำเนินการด้วยความเร็วสูง สามารถทำการซื้อขายหลายครั้งในเวลาเพียงไม่กี่มิลลิวินาที นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในพอร์ตการซื้อขาย จำลองสถานการณ์ตลาด วิเคราะห์อารมณ์ความรู้สึกของตลาด และปรับแนวทางตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ 

ความสามารถของ AI ในการระบุรูปแบบและแนวโน้มในชุดข้อมูลขนาดใหญ่ มีศักยภาพในการพลิกโฉมแพลตฟอร์มการซื้อขายในตลาดพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จากการสามารถตรวจจับโอกาสและความเสี่ยงในตลาดที่อาจถูกมองข้ามไป

  • เพิ่มประสิทธิภาพระบบกักเก็บพลังงาน

สำหรับการปรับใช้กับระบบกักเก็บพลังงาน AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บและการแจกจ่ายพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการ การผลิต ราคา และสภาพของกริดไฟฟ้า อัลกอริทึ่มของ AI จะกำหนดเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บพลังงาน เวลาที่ควรปล่อยพลังงาน และปริมาณที่จะจัดสรร ตัวอย่างเช่น แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ลมและแสงอาทิตย์มีความไม่แน่นอน 

ด้วยขีดความสามารถนี้ ทำให้สามารถกักเก็บพลังงานส่วนเกินที่ผลิตได้ในช่วงที่มีกำลังการผลิตสูงสุด และไม่จำเป็นต้องนำออกมาใช้ ทำให้มีแหล่งพลังงานสำรองสำหรับสถานที่ที่อาจจำเป็นต้องใช้พลังงานเร่งด่วน เช่น โรงพยาบาล ศูนย์ข้อมูล และบริการฉุกเฉินต่างๆ    

  • จัดการการจัดเก็บและกำจัดของเสีย

อุตสาหกรรมพลังงานได้สร้างขยะในปริมาณมหาศาล ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมหากไม่จัดเก็บและกำจัดอย่างถูกต้อง ซึ่ง AI สามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการแนะนำวิธีการจัดการขยะที่ปลอดภัยมากขึ้น ตัวอย่างเช่น AI สามารถวิเคราะห์และประเมินผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาวของสารกัมมันตรังสีชนิดต่างๆ รวมถึงความไวต่อสภาพและวัสดุต่างๆ ซึ่งทำให้นักวิจัยเข้าใจระดับความปลอดภัยของสถานที่จัดเก็บกากกัมมันตรังสีที่มีอยู่ได้ดียิ่งขึ้น และระบุวิธีการรักษาและปรับปรุงสถานที่เหล่านั้น ซึ่งจะช่วยในการสร้างสถานที่จัดเก็บกากนิวเคลียร์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น หรือหาวิธีกำจัดกากทั้งหมด

นอกจากนี้ AI ยังสามารถปรับใช้กับบริษัทที่ผลิตพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน โดยสามารถแนะนำและค้นหาวิธีการกำจัดอุปกรณ์ที่เสียหายหรือหาแนวทางนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น แผงโซลาร์เซลล์หรือกังหันลม

เสริมศักยภาพธุรกิจพลังงานด้วย AI 

เทคโนโลยี AI กำลังได้รับการพัฒนาให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นเรื่อยๆ และนำไปปรับใช้กับการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ สำหรับธุรกิจพลังงานแล้ว AI ย่อมสามารถสร้างความได้เปรียบทั้งในแง่การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อหาโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ 

สำหรับองค์กรที่ต้องการใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจบริการสุขภาพ บลูบิค (Bluebik) พร้อมให้คำปรึกษาและมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยวางกลยุทธ์องค์กร วางรากฐานด้านข้อมูล (Data) ไปจนถึงการพัฒนาโมเดล AI ขั้นสูงที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความต้องการของธุรกิจ

ติดต่อเราสอบถามหรือปรึกษาเราได้ที่ 

[email protected] 

☎ 02-636-7011

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก pixelplex.io, energydigital, datadynamicsinc