“ไว้ใจได้เลย” “โล่งละ..จ๊อบนี้” เสียงจากเพื่อนร่วมงานหลาย ๆ คนที่มีต่อ แบงค์ เมื่อรู้ว่าได้รับ Assignment ทำงานร่วมโปรโจคกับเขา 

จากการที่ได้รู้จัก “แบงค์” ผ่านการประชุม Zoom…การเจอกันในลิฟท์ออฟฟิศเพียง 2 ครั้งและบทสนทนาสั้น ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความมั่นใจและมุ่งมั่นในตัวเขา จึงไม่แปลกใจว่า “ธนภัทร” หรือที่เพื่อน ๆ เรียกกันว่า “แบงค์ – AI” จะประสบความสำเร็จด้วยวัยเพียง 26 ในฐานะ Manager ของทีม Advanced Insights – AI ที่กำลังง่วนกับบทบาทใหม่ นักศึกษาปริญญาโทที่ได้รับทุนการศึกษาคนแรกของ “บลูบิค” เพื่อสานฝันการเป็น Enterprise Architecture – EA ที่เปรียบได้กับ Rare Item ของเกม ในสายงานเทคฯ

การเรียนไปด้วย – ทำงานสายเทคฯไปด้วยนั้น เกินคำว่าเหนื่อยไปมาก แต่ระบบ Systematic Thinking แบบฉบับของ “แบงค์ – AI” กับชุดข้อมูลง่าย ๆ ที่จะทำให้ การ Go-to-market ครั้งนี้สำเร็จได้ คือ “ทุกวินาทีใน 24 ชั่วโมงต้องหายใจให้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด”

จากปัญหา สู่ เป้าหมาย

หลังจากที่ทำงานกับบลูบิคได้ 2 ปี แบงค์ค้นพบว่า ความรู้ด้านเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะตอบโจทย์ลูกค้าทั้งหมดได้ เพราะคนสายเทคฯส่วนใหญ่มักขาดความเข้าใจและมุมมองทางธุรกิจแบบรอบด้าน ทำให้โซลูชันที่ออกแบบมามันไม่ยั่งยืนมากพอ และส่งผลต่อความรู้สึกของคนที่ต้องทำทุกอย่างให้ออกมาดีพอสำหรับทุกคน อย่างแบงค์ 

“อยากทำงานที่ใหญ่มากกว่าแค่ระบบ Big Data อยากไปให้ถึงการออกแบบระบบของทั้งองค์กร หรือระบบประเทศที่ต้องทำควบคู่กันทั้งส่วนของธุรกิจและเทคโนโลยี เพราะเราเชื่อว่าระบบดีแค่ไหน แต่ถ้าคนไม่พร้อมใช้งานหรือไม่มีวิธีการที่จะปรับจูนเข้าหากัน มันก็เป็นได้แค่ระบบหนึ่งที่รอวันหมดอายุเมื่อคนเลิกใช้ พอไปเจอตำแหน่งหนึ่งที่เรียกว่า EA เลยใช้ตัวนี้เป็นเป้าหมายระยะยาวของชีวิตต่อจากนี้ที่เราต้องไปให้ถึง” แบงค์กล่าว เรียบ ๆ แต่จริงจัง

หาเรียน ต้องไม่หาทำ

คนสายเทคจะรู้ดีว่าบางที 24 ชั่วโมงก็ไม่พอจะสะสางงานทั้งหมดได้ แต่เมื่อต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย แบงค์จึงต้องเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตใหม่ทั้งหมด เพราะบางทีการก้าวข้ามอะไรสักอย่างได้ จะต้องผ่านบททดสอบของชีวิตที่ปัญหาหลาย ๆ ด้านอาจเข้ามาพร้อม ๆ กัน 

แบงค์เล่าว่า พอเริ่มเรียน ทั้งตัวงานหลัก การเรียน การบ้าน งานกลุ่ม และสอบมันจะเข้ามาเยอะมาก ๆ ฉะนั้น การ Utilize เวลาชีวิตที่มีต้องทำให้คุ้มค่าที่สุด เรื่องที่ต้องลงมือทำอย่างนั่งเรียนหรือนั่งทำงานก็จะโฟกัสสิ่งนั้นเต็มที่ แต่หากเป็นเรื่องที่ต้องใช้สมองคิดหรือคุยงานจะทำระหว่างเดินทางหรือพักกินข้าวแทน เรียกได้ว่าต้องคุ้มค่าทุกวินาทีจริง ๆ 

“ปกติหากงานออกมาไม่ได้ดังใจ ก็จะทำเกินเวลาหรือวนกลับไปทำใหม่จนกว่าจะดี พอมาเรื่องเรียนก็เลยติดว่าต้องออกมาดีทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงาน แต่เวลาที่มีเท่าเดิมเลยต้องเลือกที่จะ ‘ตัด’ กิจกรรมอย่างอื่นอย่างเล่นเกมออก และเหลือเวลาให้ไร้สาระวันละ 1 ชั่วโมงพอ และวันหยุดจะทำการบ้าน ดำน้ำหรือออกกำลังกาย เป็นการเบรกตัวเองให้ได้พัก เพื่อจะได้ไปต่อใน Weekdays” 

เทคนิคจัดการชีวิตงานและการเรียน แบบ “แบงค์ แบงค์”

• ตั้ง Cut Off หมดเวลาแล้ว คือ จบกันเอาสมองไปทำอย่างอื่น ปัญหาที่ติดอยู่ตอนนี้ ก็ปล่อยให้มันเป็นปัญหาของตัวเราในวันพรุ่งนี้แทน 
• ไม่แทรกกิจกรรมอื่นระหว่างทาง เช่นทำงานในเวลาเรียน หรือทำการบ้านตอนทำงาน
• ไม่พยายาม Multitasking ใช้วิธีเขียน To Do List ไว้แล้วจัดลำดับความสำคัญและช่วงเวลาที่จะใช้ไปกับงานนั้น ๆ แล้วเน้นทำในรูปแบบ Single Task เพื่อให้สมองได้จดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่
• แยก Account และโปรแกรมอื่น ๆ ใน Notebook ออกจากกันทั้งหมด ไม่ Log-in Account บริษัทในเครื่องเรียน และไม่ Log-in Account เรียนในเครื่องบริษัท
• เวลาเรียนเข้าโหมด  Do Not Disturb เพื่อไม่ให้ Notification มันเด้งขึ้นมา

Bluebik’s Scholarship program โอกาสแห่งการให้และได้รับ

โอกาสที่ผ่านเข้ามา ไม่สำคัญเท่าโอกาสที่เราคว้าเอาไว้ได้ การเข้าสู่โปรแกรม Scholarship นี้ก็เช่นกัน แบงค์มองว่า สิ่งที่ได้มาและสัญญาที่ให้ไว้กับบริษัท เป็นการแลกเปลี่ยนที่ win-win ทั้งสองฝ่าย เพราะตัวงานและทีมที่ทำอยู่ด้วยกันก็ดีมาก ๆ ในขณะทุนการศึกษาที่ได้ก็ครอบคลุมหมด ทำให้สามารถเก็บเงินตัวเองไว้ใช้ในเรื่องสำคัญหรือทำอย่างอื่นต่อไป 

“Bluebik’s Scholarship Program เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้ เห็นสิ่งรอบนอก รู้จักคนใหม่ ๆ และสำคัญ คือ เราได้เก็บเงินอีกส่วนของเราเองไว้เรียน MGB Program (GBT) เป็นการเสริมความรู้ในมุมบริบทของธุรกิจต่างประเทศ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้และสร้างมูลค่า (Value) ให้ตัวเอง” 

“จริง ๆ แล้วมีบลูบิคให้การสนับสนุนด้านอื่นอีก เช่น ค่าอบรมภายในและภายนอก คลาสเรียนออนไลน์ การสอบ Certification ต่างๆ รวมถึงหนังสือพัฒนาความรู้ทั้งในรูปแบบ Hard copy และ Soft copy โดยไม่มีข้อผูกมัด อีกทั้งยังสนับสนุนวันลาเพิ่มเติมสำหรับการเตรียมสอบและวันสอบจริง และสำคัญที่สุด ทีมงานที่นี่ ให้การสนับสนุนเรื่องเหล่านี้อย่างเต็มที่มาก” 

นอกจากเนื้องานและตัวเงิน สภาพสังคมก็สำคัญ

เนื้องานและตัวเงินอาจเป็นแรงจูงใจหลักสำหรับการหางาน แต่อย่าลืมว่าสภาพสังคมการทำงานก็สำคัญไม่แพักัน เพราะการสนับสนุนของคนในทีมเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ผลงานออกมาดี และส่งเสริมให้คุณพัฒนาไปยังอยู่ในจุดที่ดีกว่าเดิม  

“ที่นี่เราจะเคารพเวลาและการใช้ชีวิตส่วนตัวของแต่ละคนมาก ๆ และทุกคนมีความโปร่งใสในเรื่องตารางการทำงานในแต่ละวัน เพราะเราลงทุกกิจกรรมในตารางปฏิทิน ดังนั้น ทุกคนจะรู้ว่าเราเรียนช่วงไหน ว่างเวลาใด ซึ่งทุกคนจะพยายามติดต่อเราน้อยที่สุดและจะไม่นัดประชุมที่ชนกับตารางเรียน และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เรา เป็น 1 ใน 3 คนของทีม AI ที่ยังไม่ไปไหนตั้งแต่เปิดบริษัทมา ซึ่งตอนนี้ก็ 4 ปีแล้ว”