เมื่อพูดถึงการให้บริการทางด้าน Digital Transformation ของ Bluebik แล้วนั้น อีกหนึ่งทีมที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Digital Excellence & Delivery (DX) ทีมสำคัญที่ช่วยให้บริการด้านการพัฒนาแอปพลิเคชัน ระบบหลังบ้าน ไปจนถึงระบบซอฟต์แวร์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถรองรับและเตรียมพร้อมกับการแข่งขันในยุคดิจิทัล ความน่าสนใจของทีมนี้ไม่ได้อยู่ที่แค่ว่าเป็น Business unit ที่ทำรายได้ให้กับ Bluebik ได้สูงที่สุด (เมื่อพิจารณาจากงบการเงินปีล่าสุด) แต่ยังเป็นศูนย์รวมของ Developer, Business Analyst, QA, UX/UI Designer, … ระดับหัวกะทิอยู่ไว้อย่างเต็มกำลัง เพื่อที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

วันนี้เราจึงอยากพาคุณไปรู้จักกับทีม DX ให้มากขึ้นกับ พี่ท็อป – ปองคุณ บัญญัตินพรัตน์ Senior Manager และ พี่มิน – กฤษดา รองรัตน์ Technical Excellence Practice Lead จากทีม Digital Excellence & Delivery (DX) สองผู้จัดการหลักของทีมในการขับเคลื่อนทีมให้สามารถเติบโต มีกระบวนการทำงานที่ดีเยี่ยม และสร้างการพัฒนาของคนในทีมไปพร้อม ๆ กัน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจในสายงานของนักพัฒนา ติดตามเรื่องราวกันข้างล่างนี้ได้เลย

ชวนไปรู้จัก พี่ท็อปและพี่มิน 

ท็อป: สวัสดีครับ ท็อปนะครับ ปัจจุบันเป็น Senior Manager อยู่ทีม DX หน้าที่หลัก ๆ ของเราคือการดูแลเรื่อง Operation ภาพรวมการทำงานต่าง ๆ ภายในทีมให้เป็นไปตามทิศทางที่วางไว้ และสามารถส่งมอบงานได้ตามลูกค้าต้องการ รวมถึงการดูแล จัดสรร Resource ภายในทีมในการลงโปรเจกต์และการพัฒนาด้านต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกคนได้มีงานทำ และมีโปรเจกต์ลง

มิน: มินครับ ตอนนี้รับหน้าที่เป็น Technical Excellence Practice Lead ซึ่งจะดูแลเรื่องของ Practice & Process เป็นหลัก ซึ่งก็จะทำงานคู่กับท็อป เพื่อที่จะผลักดันให้ทีม DX มีทั้ง Usability และ Quality ที่ดี โดยหน้าที่ของมินก็จะดูแลในส่วนของคุณภาพชิ้นงานที่จะส่งออกไปให้ลูกค้า เพราะเราไม่ใช่แค่พัฒนาแล้วจบไป แต่เราส่งมอบประสบการณ์การพัฒนา ด้วยการทำงานร่วมกับลูกค้าและสร้างกระบวนการพัฒนาไปพร้อมกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าหลังจากส่งมอบแล้ว ผลงานของเราสามารถนำไปใช้ได้จริงและเกิดการพัฒนาต่อยอดไปได้

การทำงานที่ทีม DX ของ Bluebik มีความน่าสนใจอย่างไร

ท็อป: จากที่เรารู้กันดีว่าตอนนี้ตลาดของเทคโนโลยีและการพัฒนาเติบโตอย่างมากในช่วงของ Digital Transformation จึงทำให้การทำงานในทีม DX มี Opportunities สำหรับคนที่เข้ามาทำงานได้เยอะมาก ไม่ว่าจะอยากทำอะไรก็มีโอกาสตั้งแต่สาย Business ไปจนถึง Technical ในการพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ และอีกด้านที่ Bluebik DX สามารถสร้างความน่าสนใจได้คือการได้ร่วมงานกับองค์กรขนาดใหญ่ ภายใต้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่หลากลาย เช่น ธุรกิจประกันภัย กลุ่มธนาคาร ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจโทรคมนาคม เป็นต้น จึงทำให้เกิดการเรียนรู้ที่สูงมากภายในทีม

มิน: นอกจากความน่าสนใจข้างต้น การได้เข้ามาร่วมงานกับทีม DX เราจะมีสนามเด็กเล่น (Playground) ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสทดลองได้ตลอด เพราะในฐานะ Management ก็จะมีหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุน รวมถึงช่วยดูความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้กับพนักงานทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง เพราะเราเชื่อว่า “เรียนจากตำราไหนก็ไม่เท่ากับเรียนรู้ด้วยตัวเอง”

นอกจากนี้ที่ Bluebik ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้ในสายงานอื่น ๆ ที่ต้องการได้ด้วย ผ่านการทำ Job Rotation ภายใน เช่น การย้ายจาก Developer ไปเป็น Business Analyst หรือ System Analyst หรือจาก Developer ไป Tester ก็สามารถทำได้ ตามความสมัครใจและความสนใจของพนักงาน เพราะฉะนั้นความน่าสนใจของทีม DX ก็คือสามารถให้ทุกคนเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มที่และอิสระ

เราหวังที่จะสร้าง Total Experience ให้กับทุกคนในทีม 

ท็อป-มิน: การร่วมงานกับทีม DX เราอยากให้ทุกคนได้ประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามาทำงานกับเรา จนกระทั่งถึงการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อไปในอนาคต เราจึงพยายามที่จะสร้าง Total Employee Experience ให้กับทุกคนที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ  DX โดยเริ่มตั้งแต่ On-boarding ไปจนกระทั่ง Off-boarding 

On-boarding เริ่มต้นทำงานกับทีม DX

เมื่อเข้าร่วมทีมกับ DX เราก็อยากให้ทุกคนเข้าใจใน Culture ของทีม และสามารถทำให้ผู้ที่เข้ามาร่วมงานใหม่ได้คุ้นเคย เข้ากับคนอื่น ๆ ในทีมได้ โดยมุ่งเน้นไปในการพัฒนา Agile Mindset  ที่จะลดการทำงานแบบ Functional เพื่อให้การทำงานไปได้คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ผ่านด้านเหล่านี้

• พัฒนา Self-empowerment ให้ทุกคนกล้าตัดสินใจ ลดการทำงานแบบ Silo ลงโดยให้สิทธิในการตัดสินใจของผู้ปฏิบัติงานในขอบเขตที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการขออนุมัติ (Approval) ต่าง ๆ และด้วย Culture ที่เป็นแบบ Supportive  จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้ และช่วยเหลือกัน
  
  
• เข้าใจและ Respect เพื่อนร่วมทีม ถึงแม้ว่า DX จะมีรูปแบบการทำงานที่เป็น Flat organization ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงกันได้ตั้งแต่ Level Junior ไปจนถึง C-level แต่อีกสิ่งสำคัญคือการให้ความเคารพกับเพื่อนร่วมงาน หมายรวมถึงทั้งระดับผู้บริหารและพนักงาน ที่จะต้องเข้าใจกัน ยอมรับในบทบาทและหน้าที่ของแต่ละคน เพื่อให้งานต่าง ๆ สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน
  
  
• พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง (Being adaptive to change) ด้วยความรวดเร็วในการทำงาน รูปแบบของโปรเจกต์และลูกค้าที่หลากหลาย รวมทั้งปัจจัยจากสภาพแวดล้อมภายนอกจึงทำให้คนในทีม DX ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดการพัฒนาอยู่เสมอ

Learning Path พัฒนาการเรียนรู้

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นก็คงพอเห็นแล้วว่าทีม DX นั้นเราเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้อย่างมาก เราจะมีการพูดคุยกับทีมแต่ละคนเพื่อหาเส้นทางในการเรียนรู้และเติบโตอย่างอิสระ ภายใต้โจทย์การทำงานขององค์กร ซึ่งนอกจากการช่วยผลักดันองค์กรให้เติบโตแล้ว ทุกคนในทีม DX สามารถเติบโตและพัฒนาไปในสายงานที่ตัวเองต้องการได้ไม่ว่าจะเป็นการก้าวเป็น Specialist ในแต่ละด้าน เช่น Developer, QA, UX/UI Designer, Business Analyst, System Analyst เป็นต้น หรือจะเป็นสาย Management เช่น Project manager, Agile coach, Scrum master เป็นต้น ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบการเรียนรู้จากการทำงาน หรือการเรียนรู้ผ่าน Workshop ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการ Coaching ของ Team lead และระหว่างคนในทีมด้วยกันเอง ที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พัฒนา เรียนรู้ และเติบโตไปพร้อม ๆ กัน

รวมไปถึงการทำงานข้ามสายงานผ่าน Job Rotation ก็สามารถทำได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราเปิดโอกาสให้กับทุกคนในการพัฒนาและเติบโตอยู่เสมอ

Keep in touch สร้าง Bluebik Community

และสุดท้าย ถึงแม้ว่าแต่ละคนอาจจะมีเส้นทางที่แตกต่างกันไป หรือต้องการเติบโตในองค์กรอื่น ๆ เราก็พยายามที่จะสร้างประสบการณ์หรือคอนเนคชันของการร่วมงานที่ Bluebik ยังคงอยู่เสมอ ที่จะทำให้หากครั้งหนึ่งในการร่วมงานด้วยกัน แต่กลายเป็น Asset ที่ดีติดตัวไปกับผู้ร่วมงานด้วยเสมอ รวมไปถึงในอนาคตที่เราอาจจะได้เวียนกลับมาเจอกันอีกครั้งก็เป็นไปได้

DX กำลังมองหาคนแบบไหน

ท็อป-มิน: สิ่งที่เรามองหาสำหรับคนที่จะเข้ามางานกับทีม DX นั้น นอกจากเรื่อง Skills ที่สามารถทำงานได้ตามหน้าที่และบทบาทที่สมัครเข้ามาแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ Mindset ข้างใน ดังนั้นเรามาดูกันเลยว่า หากคุณมี Mindset เหล่านี้ คุณอาจเป็นคนที่เราต้องการอยู่ก็เป็นได้

1. Growth Mindset
   สิ่งที่เรามองหาในทุกคนคือมุมมองในการเติบโต เพราะเราคิดว่าในการทำงานที่ต้องปรับตัวทุกคนจำเป็นต้อง “Learn – Relearn – Unlearn” อยู่ตลอดเวลา การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาเพื่อนำไปพัฒนากระบวนการทำงานเดิมให้ดีขึ้น การทบทวนแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหรือผิดพลาด รวมไปถึงการยอมรับการเปลี่ยนแปลงความรู้เดิม ๆ ที่อาจจะล้าสมัยไปแล้ว จะเห็นว่าทุกอย่างไม่ได้หยุดนิ่ง เราจึงพยายามมองหาคนที่พร้อมที่จะเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกัน
   
   
2. Self-leadership
   ความสามารถในการเป็นผู้นำในการจัดการตัวเอง ให้สามารถมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ เพราะเราเชื่อว่าคนที่มีการผลักดันตัวเอง จะสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่การเรียนรู้ พัฒนา และการรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายได้อย่างดีเยี่ยม
   
   
3. Collaboration
   ความสามารถในการร่วมงานกับผู้อื่น ในการทำงานที่ทีม DX ไม่ใช่เพียงแค่การทำงานร่วมกันภายในทีมเท่านั้น แต่เราก็ต้องทำงานร่วมกับลูกค้า ที่จะทำให้เราได้เจอกับรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย วัฒนธรรมแต่ละทีมที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงการทำงานแบบ Cross-function แต่หากคน ๆ นั้นสามารถร่วมงานกันคนอื่นเป็นทีมได้ ก็จะสามารถช่วยผลักดันให้บรรยากาศภายในทีมเป็นไปได้อย่างราบรื่น
   

นอกจากนี้ในการมองหาคนมาร่วมทีมกับ DX เรามองถึงเรื่อง Diversity หรือความหลากหลายภายในทีมด้วย ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์การทำงาน จบการศึกษาจากที่ไหนมา รวมไปถึงความชอบหรือรสนิยมด้านใด ก็สามารถร่วมงานกับเราได้ เพราะด้วยความหลากหลายนี้จะช่วยให้เราสามารถเห็นมุมที่แตกต่างจากการทำงานร่วมกันภายในทีม และอาจนำไปสู่ไอเดียใหม่ ๆ ที่สร้างความมหัศจรรย์ในการทำงานได้

ถ้าอยากร่วมงานกับทีม DX ต้องทำอย่างไร

เล่ามาขนาดนี้แล้ว ก็อยากจะเชิญชวนน้อง ๆ หรือใครที่สนใจที่จะทำงานในทีม DX ของ Bluebik สมัครเข้ามาได้ที่ https://bluebik.com/career/digital-excellence-and-delivery สามารถเช็กรายละเอียดตำแหน่งที่เปิดรับ หรือ Inbox เข้ามาหาเราทาง Facebook เพื่อพูดคุยกับ HR ได้โดยตรง

สุดท้ายนี้แล้วทีม DX ยังเปิดโอกาสอีกเยอะมากที่จะให้ทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกัน