เชื่อว่าหลายๆ คน น่าจะคุ้นเคยชื่อของบริษัท Bluebik Group เป็นอย่างดี เนื่องจากกระแสของการเติบโตของ Digital Transformation รวมทั้งการทำ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วยชื่อย่อ “BBIK” ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว บอกเลยว่า โซคูลลลล… จึงทำให้ Bluebik เอง เป็นอีกหนึ่ง Destination หรือบริษัทในฝันของใครหลายคนที่อยากจะเข้ามาร่วมงานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทีม Digital Excellence & Delivery (ทีม DX) เป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องของการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน เพิ่มศักยภาพการทำงานให้รองรับกับการเติบโตของเทคโนโลยีขององค์กรต่างๆ
ใครอยากรู้จักทีม DX คืออะไร ทำอะไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้เลย https://bluebik.com/our-people/3490
วันนี้ในฐานะที่พวกเราเป็น Software Engineer อยู่ที่ Bluebik มาตั้งแต่เป็น First Jobber เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์ พร้อมกับพูดคุยทุกคนเกี่ยวกับการทำงานใน Bluebik เป็นอย่างไร น่าสนใจแค่ไหน แล้วสำหรับเด็กจบใหม่ที่กำลังหางาน การทำงานกับ Bluebik จะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจหรือไม่ รวมถึงความพิเศษของการทำงานที่บริษัทอย่าง Bluebik ว่าทีมเรานั้นมัน Cool! ขนาดไหน
ถ้าพร้อมแล้วไปดูเลย
Q1: ขอแนะนำตัวสมาชิกทีมกันของวันนี้สักนิด
ป้อ: สวัสดีครับ ชื่อเล่นชื่อป้อนะครับ จบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยมหิดลครับ ตอนนี้ก็ทำงานในตำแหน่ง Software Engineer โดยทำในส่วนของ Front-end ครับ
เอิร์ธ: สวัสดีค่าาา เอิร์ธค่า จบมาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตอนนี้เป็น Software Engineer ทีม Back-end ค่ะ
พีท: สวัสดีครับผม ชื่อพีทครับ จบวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยมหิดล ตอนนี้เป็น Software Engineer หน้าที่ส่วนใหญ่ตอนนี้จะเป็น Front-end ครับ
Q2: หลังเรียนจบ ทำไมถึงเลือกมาทำงานกับบลูบิคเป็นที่แรก?
เอิร์ธ: เพราะตอนเรียนมีเพื่อนที่เคยฝึกงานที่นี่มาอวยไว้เยอะมากกก ทำให้เริ่มสนใจ ประกอบกับที่ Bluebik ได้จัดงานเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาในการทำงานกับนักศึกษาที่กำลังเรียนจบ ทำให้รู้สึกว่าที่นี่ให้ความสำคัญในการสรรหาบุคลากรดี แล้วตอนที่ได้ไปร่วมงาน ได้พูดคุยและรู้จักกับพี่ ๆ ที่ Bluebik ทำให้ยิ่งสนใจและมีความตั้งใจที่จะสมัครเพื่อเข้าทำงานที่นี่ค่ะ
พีท: ได้รู้จักบลูบิคจริงๆ จังๆ จากกิจกรรมที่ทางบริษัทจัดขึ้นเลยครับ หลังจบกิจกรรมนั้นมาก็รู้สึกว่า Bluebik เป็นบริษัทที่เข้ากับสไตล์ของตัวเองดี ก็เลยลองสมัครเข้ามาครับ
ป้อ: คือผมได้มีโอกาสมาฝึกงานที่ Bluebik ช่วงปี 3 ขึ้นปี 4 แล้วเราได้รับ Offer หลังจากจบช่วงฝึกงานครับ นอกจากนี้ก็มีรุ่นพี่ที่มหาลัยทำงานอยู่ที่นี่ด้วย ผมเห็นว่าการที่มีพี่ๆ ที่มหาลัยทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกันน่าจะทำให้บรรยากาศในการทำงานเป็นกันเองมากขึ้น ผมจึงเลือกที่จะเข้าทำงานที่นี่เป็นที่แรกครับ
Q3: จากการทำงานมาระยะหนึ่ง เราคิดว่าความคูล (Cool) ของทีมเรามีอะไรบ้าง?
พีท: พูดถึงความคูล ต้องเรื่องบรรยากาศการทำงานเลยครับ วิธีการทำงานที่นี้นับว่าเป็นกันเองมากๆ ทำให้รู้สึกเหมือนเราทำงานกับเพื่อนตลอดเวลา มีปัญหาอะไรเราก็พร้อมจะช่วยเหลือกันได้ตลอด ทำให้รู้สึกว่า Bluebik ไม่ใช่แค่สถานที่ทำงาน แต่ทำให้เราได้มาเจอกับสังคมใหม่ ๆ เจอเพื่อนที่คอยสนับสนุนกันและกัน
นอกจากนี้ ก็มีพี่ๆ Team Lead ที่สุดยอดมากๆ พร้อมจะซัพพอร์ตเราเสมอ ทำให้เราไม่รู้สึกติดอยู่กับทางตัน หรือเรียกง่ายๆ ว่า มีพี่ๆ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองอยู่ครับ สาธุ
แล้วที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเพื่อนคูลๆ ตำแหน่งนี้คงต้องให้ยกกับเพื่อนรักผมอย่างเพื่อนป้อเลยครับ ไม่มีครั้งไหนที่ผิดหวังเลยสักครั้ง ก็มีเพื่อนผมคนนี้นี่แหละครับที่พร้อมจะไปไหนไปกันทุกเมื่อ 🙂
ป้อ: ถ้าพูดถึงความคูลแบบภาพรวมก่อนนะครับ เวลาใครติดปัญหาในการทำงาน พี่ๆ ทุกคนพร้อมที่จะช่วยเราตลอดเลย ผมชอบตรงนี้มาก แรกๆ ที่ผมเข้ามาทำงานเนี่ยถ้าไม่ได้พี่ๆ ก็คือแย่เลยครับ แต่พอผ่านไปก็เหมือนเดิมครับ พึ่งพี่ๆ เค้าอยู่ดี 555+ แต่ก็น้อยลงครับ >///<
แต่ถ้าพูดถึงความคูลแบบรายบุคคล สำหรับผมก็ต้องยกให้คนนี้เลยครับ พี่แมค Manager เลยครับ พี่แมคเนี่ยยิ่งกว่าอับดุล ถามอะไรตอบได้หมด ช่วยผมเยอะมาก แถมใจดีอีกต่างหาก รับผมเป็นศิษย์ทีครับพี่!
พี่แมค Manager,
Digital Excellence & Delivery
เอิร์ธ: มีหลายอย่างเลยค่ะ แต่ขอยกตัวอย่างที่คิดว่าคูลสุด ๆ ก็แล้วกันน้า
ในทีมของเรามีกิจกรรมหลากหลายกิจกรรมมากกก และทุกๆ กิจกรรมก็ออกมาดี เอิร์ธคิดว่าคนที่คิดกิจกรรมและทีมงานคูลสุดๆ ที่คิดกิจกรรมที่หลากหลายแล้วก็สนุกมากๆ แบบนี้ขึ้นมา แล้วยังมีเรื่องการจัดการในทีมที่คูลมากกก ทำให้การทำงานราบรื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ
นอกจากนี้ เรื่องที่เพื่อนๆ คงพูดกันไปหมดแล้ว คือ เพื่อนร่วมงานและพี่ๆ Team Lead ก็สุดคูล เก่งกันมากๆ แล้วก็คอยช่วยเหลือกันดีด้วยค่ะ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือพี่ๆ Manager และ Director ของทีม DX (Digital Excellence and Delivery) ที่เก่งมากๆ และแม้ว่าจะมีงานเยอะขนาดไหนก็ยังหาเวลามาเอาใจใส่น้องๆ ในทีมเสมอ
Q4: คิดว่าสไตล์การทำงานที่บลูบิคเหมาะกับเด็กจบใหม่อย่างเราไหม?
เอิร์ธ: เหมาะแน่นอนค่า เพราะที่นี่ส่วนใหญ่แล้วมีแต่คนในช่วงวัยเดียวกัน ทำให้พูดคุยกันรู้เรื่องและ Tools ที่ใช้ก็สมัยใหม่ ไม่ล้าสมัยแน่นอน
ป้อ: เหมาะมากครับ คนที่ทำงานที่นี่ส่วนมากมีอายุใกล้ๆ กันทำให้คุยง่าย พอคุยง่าย อะไรๆ มันก็ง่าย บรรยากาศการทำงานก็ดี พี่ๆ ที่ทำงานก็ชิล มาเถอะครับ สุดคูล! เชื่อพี่ 555+
พีท: เหมาะสุดๆครับ เพราะนอกจากทีมที่มีความเป็นกันเองแล้ว ยังรวมไปถึงพี่ๆ ผู้บริหารที่เป็นกันเองสุดๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าไม่ว่าจะย้ายไปทีมไหน ตราบใดที่ยังอยู่ที่ Bluebik ก็ไม่มีที่ไหนอึดอัดครับ
Q5: Tips สำหรับน้องจบใหม่ที่สนใจทำงานกับบลูบิค ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
เอิร์ธ: นอกเหนือจาก Resume แล้วก็เตรียมความรู้และความเป็นตัวของตัวเองมาให้เต็มที่ แล้วอย่าลืมบอกพี่ HR ว่าพี่เอิร์ธแนะนำมานะคะ ^^
พีท: ก็คงอยากฝากเรื่องของการสื่อสารครับ ทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลย เพราะบางทีเราจะได้มีโอกาสทำงานกับชาวต่างชาติ ส่วนในเรื่อง Hard skills นี่เราสามารถ Learning by doing กันได้ครับ
ป้อ: ส่วนใหญ่ที่ควรจะเตรียมตัวโดยทั่วไปก็จะมี Soft skills และ Hard skills นอกนั้นก็เตรียมใจครับ เตรียมใจมาเจอความสบายที่ไม่เคยเจอมาก่อนได้เลย 5555555
เล่ามาถึงตรงนี้ ก็ไม่อยากให้ใครพลาดกันนะครับ โอกาสดีๆ โซคูลแบบนี้ หากใครสนใจอยากเข้าร่วมงานกับ Bluebik กับทีม Digital Excellence & Delivery สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ bluebik.com/career หรือทักมาพูดคุยกันได้ที่ Facebook Bluebik Group, LinkedIn Bluebik Group เพื่อคุยกับ HR ได้โดยตรง