ใกล้จะสิ้นปีแล้ว เชื่อว่าหลายบริษัทหรือหลายคนในที่นี้คงกำลังเริ่มวุ่นกับการทำแผนธุรกิจสำหรับปีหน้า และหนึ่งในหัวข้อสำคัญคงไม่ผลเรื่องแนวทางการปฏิบัติงานและการวัดผล โดยเฉพาะการทำ KPI และ OKR วันนี้เราจึงอยากจะมาเล่าถึงการจัด OKR ที่ดีเพื่อให้องค์สามารถบรรลุเป้าหมายธุรกิจในปีหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คงต้องบอกว่า OKR (Objectives & Key Results) ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จะทำอย่างไรให้สามารถนำ OKR ไปใช้ขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายได้จริง เราจึงขอนำเสนอแนวทางการเขียน OKR อย่างได้ผล
โดย OKR มีส่วนประกอบ 2 ส่วนหลักด้วยกัน
1. Objectives คือเป้าหมาย หมายถึงสิ่งที่เราต้องการทำให้สำเร็จ (What) ควรเป็นเป้าหมายหลักขององค์กร หน่วยงาน หรือทีมที่กระตุ้นให้เกิดแรงผลักดันในการทำงาน โดยเป้าหมายอาจไม่จำเป็นต้องมีเพียงอย่างเดียว
เช็คลิสต์การตั้งเป้าหมาย
- เป้าหมายมีทิศทางที่ชัดเจนหรือไม่
- เป้าหมายควรสอดคล้องกับเป้าหมายหลักขององค์กร
- เป้าหมายมีความท้าทาย แต่ขณะเดียวกันเป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริง
- เป้าหมายควรอิงจากข้อมูลความเป็นจริง ไม่ล่องลอยโดยไม่มีหลักการ
- เป้าหมายมีกรอบเวลาในการบรรลุผลหรือไม่
2. Key Results คือตัวชี้วัดความสำเร็จของเป้าหมาย ซี่งก็หมายถึงแนวทางในการบรรลุเป้าหมายนั้น (How) ในการกำหนดตัวชี้วัดควรมีความสอดคล้องกับเป้าหมายที่เราตั้งไว้ โดยวัดจากผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ใช่ตัวกิจกรรมที่ทำ และการกำหนดตัวชี้วัดควรอยู่ที่ราว 3-5 อย่าง
เช็คลิสต์การตั้ง Key Results
- มีความเฉพาะเจาะจง
- วัดผลเป็นตัวเลขได้ เช่น ต้องมียอดดาวน์โหลด 100,000 ดาวน์โหลด ภายในไตรมาส 3
- มีกรอบเวลาวัดผลที่ชัดเจน เช่น วัดผลทุกไตรมาส
ทำไมถึงควรใช้ OKR
- ช่วยให้ทุกคนทำงานเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน
- ทำให้คนในองค์กรโฟกัสได้ตรงจุด สอดคล้องกับเป้าหมายที่องค์กรต้องการจริงๆ
- สร้างกระบวนการทำงานที่ชัดเจนและวัดผลได้
- สร้างความโปร่งใสของกระบวนการทำงานภายในองค์กร
แล้ว OKR ต่างจาก KPI อย่างไร
- KPI จะมีผลโดยตรงต่อผลตอบแทนที่พนักงานได้รับ เราอาจเรียกว่า Compensation KPI ในขณะที่ OKR ไม่ยึดโยงกับผลตอบแทน
- OKR จะประกาศให้ทุกคนในองค์กรรู้ และจะมีการทบทวนถี่กว่าอย่างน้อยเป็นรายไตรมาส ขณะที่ KPI ไม่มีการประกาศและทบทวน ครึ่งปีหรือปีละครั้ง
- OKR เป็นการท้าทายระบบการทำงานแบบเดิม ในขณะที่ KPI ยังยึดรูปแบบหรือระบบการทำงานเดิมเป็นหลัก
- ทีมสามารถควบคุมผลลัพธ์ของ OKR ได้บางส่วน สำหรับกรณี KPI ทีมสามารถควบคุมผลลัพธ์ได้ทั้งหมด
- OKR มาจากการระดมความคิดเห็นของพนักงานที่ปฎิบัติงานเป็นส่วนใหญ่ (Bottom-up) ในขณะที KPI จะเป็น Top-down
ขอบคุณข้อมูลจาก okr-thai.com, piktochart