“การพัฒนาตัวเองไม่ใช่การทำครั้งเดียวจบ ต้องทำต่อๆ กันเรื่อยๆ” 

ประโยคนี้น่าจะบอกเล่ามุมมองที่ ‘ชาญ’ มีต่อการเติบโตบนเส้นทางสายคอนซัลแทนต์ได้ดีที่สุด

ย้อนกลับไปราว 7 ปีก่อน ชาญเองก็เป็นเด็กจบใหม่คนหนึ่งที่ยังไม่รู้เรื่องการทำงานในชีวิตจริงมากนัก เขามีเพียงไอเดียคร่าวๆ ในหัวว่า “สนใจด้านธุรกิจ” แล้วตัดสินใจพาตัวเองออกไปหาประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด

รู้ตัวอีกที วันนี้เขาเป็นถึง Associate Director ประจำ Customer Relationship Management Advisory Unit ของ Bluebik โดยดูแลภาพรวมทั้งหมดของการใช้ระบบ CRM ให้กับลูกค้า ไล่ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ การออกแบบระบบ ตลอดจนการนำไปใช้ให้ได้ผลจริงและมีประสิทธิภาพ 

ภายในเวลาไม่นาน เขาพัฒนาตัวเองมาสู่จุดนี้ได้อย่างไร วันนี้ชาญเล่าให้เราฟังทั้งหมดแบบไม่มีกั๊ก

ของาน ของาน ของาน  

สำหรับชาญ เขาไม่ชอบอยู่เฉยๆ รอให้โอกาสลอยเข้ามาหา แต่พยายามไขว่คว้าและสร้างโอกาสขึ้นมาด้วยตัวเอง 

“ผมสนใจด้านธุรกิจอยู่แล้วเป็นทุนเดิม อาจยังไม่รู้มากว่าธุรกิจเกี่ยวกับอะไรบ้าง หรือเราต้องรู้อะไรบ้าง แต่ก็เริ่มหางานเกี่ยวกับธุรกิจ จนมาเจอว่ามีงาน management consulting เลยเริ่มหาที่ฝึกงานด้านนี้ตั้งแต่ตอนเรียน พอเรียนจบผมก็มาเป็น Case Team Assistant ที่ Boston Consulting Group มีหน้าที่ทำรีเสิร์ชและคอยซัปพอร์ตทีมต่างๆ”

แม้ CTA จะไม่ใช่คอนซัลแทนต์โดยตรง แต่ได้อยู่ในบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกทั้งที ชาญจึงพยายามของานด้านคอนซัลต์มาทำ

“ผมเริ่มจากส่วนเล็กๆ เช่น วิเคราะห์หรือทำตัวเลขบางพาร์ต ขยับจากเรื่องเล็กๆ พวกนั้นจนได้มาทำพรีเซนเทชันด้วยตัวเอง เลยได้มาเจอกับพี่โบ๊ท (พชร อารยะการกุล) ซึ่งตอนนั้นทำอยู่ BCG หลังจากได้ทำคอนซัลต์ก็ค่อนข้างชอบ ผมเลยตัดสินใจทำงานสายนี้ต่อ” 

ลากเส้นต่อจุดแล้วมาหยุดที่ Bluebik

ช่วงเวลาที่ชาญได้เจอกับพี่โบ๊ทนั้นเป็นจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะอย่างยิ่งด้วยเหตุผล 2 ประการ

หนึ่ง–สัญญาของชาญกับที่ BGC กำลังจะสิ้นสุดลง

สอง–พี่โบ๊ทกำลังจะออกมาก่อตั้ง Bluebik

สำหรับชาญ การตัดสินใจย้ายมาทำงานที่ Bluebik เป็นการตัดสินใจที่ง่ายดายและสมเหตุสมผลที่สุด เขาอยากทำงานที่ชอบ และอยากทำงานกับคนเก่งๆ

“ผมอยากทำงานกับพี่โบ๊ท เพราะตอนอยู่ BCG มีโอกาสได้คุยและทำงานกับเขา เขาเก่งมาก แล้วเราก็ได้โอกาสหลายอย่างจากเขา เลยตัดสินใจมาเริ่มทำงานที่ Bluebik”

ยิ่งหลากหลาย ยิ่งแก้ปัญหาได้แม่นยำ

เมื่อย้ายมาทำงานที่ Bluebik ชาญสังเกตเห็นว่า สิ่งหนึ่งที่ Bluebik มีเหมือนกับบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกคือจิตวิญญาณและความมุ่งมั่น

“เราทำงานอย่างมืออาชีพ เราทำสิ่งที่มีอิมแพกต์และช่วยตอบโจทย์ธุรกิจของลูกค้าจริงๆ” 

ยิ่งไปกว่านั้น เพราะ Bluebik ให้บริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการให้คำปรึกษา กำหนดแนวทางการทำงาน ไปจนถึงการนำกลยุทธ์ไปใช้งานจริง ชาญจึงได้ร่วมงานกับผู้คนที่มีความหลากหลายมากขึ้น หลากหลายทั้งพื้นเพที่มา ความสนใจ และความถนัด

“จากที่ได้เจอแค่คนฝั่งธุรกิจ ผมได้เจอคนที่ทำงานฝั่งเทคนิคัลด้วย เช่น developer หรือ data analyst ผมจึงได้เรียนรู้วิธีการทำงานและมุมมองของคนที่หลากหลายขึ้น ทำให้ผมมีมุมมองที่กว้างขึ้น เวลาคิดโซลูชันให้ลูกค้าก็เห็นภาพมากขึ้นว่าต้องแก้ไขอะไรจากการที่เพื่อนๆ พี่ๆ เล่าว่าเขาเคยเจอปัญหาอะไร”

เมื่อเข้าใจภาพกว้าง จึงลงรายละเอียดได้อย่างลึกซึ้ง

แม้งานปัจจุบันในฐานะ Associate Director ประจำ Customer Relationship Management Advisory Unit จะไม่เหมือนงานคอนซัลต์เสียทีเดียว เพราะโปรเจกต์ของยูนิตจะมุ่งเน้นที่การนำไปใช้ (implement project) แต่ชาญบอกว่าพื้นฐานของงานสายคอนซัลต์ก็ช่วยเขาได้มาก

“งานคอนซัลต์จะเป็นการวิเคราะห์และนำเสนอเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจ ซึ่งงานจะ on paper ค่อนข้างเยอะ แต่พอขยับมาทำ CRM ก็จะทำงาน implementation มากขึ้น เช่น พัฒนาระบบ เขียนโค้ดบนระบบ เพื่อนำไปใช้งานกับลูกค้า แต่สุดท้ายเราก็ต้องคิดจากภาพใหญ่ก่อนว่าอะไรคือ root cause แล้วถึงจะคิดว่าควรใช้ระบบอะไร และต้องออกแบบระบบอย่างไรให้ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาธุรกิจได้”

ชาญบอกด้วยว่า แนวทางของทีม CRM คือ “ไม่ย้ายของเก่ามาไว้บนของใหม่” แปลว่าต้องคิดกระบวนการทำงานที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าด้วย ไม่ใช่แค่โยกกระบวนการแบบเดิมมาป็นแบบดิจิทัลเท่านั้น ดังนั้นเนื้องานจึงยังคงท้าทายไม่แพ้งานคอนซัลต์เลย

ทำบ่อยๆ และทำต่อเนื่อง

เมื่อถามถึงเคล็ดลับการพัฒนาตัวเอง ชาญบอกว่า “การพัฒนาตัวเองไม่ใช่การทำครั้งเดียวจบ ต้องทำต่อๆ กันเรื่อยๆ”

สำหรับชาญ มี 2 สิ่งที่เขาทำเป็นประจำ อย่างแรกคือการอ่าน และอย่างที่สองคือปรับปรุงแก้ไขตามฟีดแบ็กที่ได้รับ

“ผมตามเพจธุรกิจเยอะ ผมชอบอ่านบทความวิเคราะห์ธุรกิจทั้งของไทยและต่างประเทศ ใช้เวลา 15-20 นาทีต่อวันในการอ่าน ไม่ได้เยอะ แต่ทำบ่อยๆ ก็จะช่วยให้เราปะติดปะต่อได้

“อีกส่วนหนึ่งคือ on-the-job learning งานหลายอย่างที่เราทำมันอาจไม่มีมาก่อน หรือลูกค้าไม่เคยทำมาก่อนในองค์กรเขา การลองผิดลองถูกไปพร้อมกับลูกค้าจะทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราคิดเราทำมันดีพอไหม มันตอบโจทย์หรือไม่ตอบโจทย์ ซึ่งสุดท้ายลูกค้าหรือคนที่ใช้งานจริงๆ ก็จะฟีดแบ็กเรามาว่าต้องปรับอะไร ได้ฟีดแบ็กมาเราก็ต้องมาแก้ไข สุดท้ายฟีดแบ็กและการทำงานที่เราสั่งสมมาจะทำให้เรามองภาพต่างๆ ได้ชัดมากขึ้น คิดได้คมขึ้น ชี้จุดได้แม่นยำขึ้น”

2 ทักษะที่ไม่มีวันตกยุค

ไม่ว่าจะทำงานด้านไหน ในอุตสาหกรรมใด ชาญบอกว่าต้องให้ความสำคัญกับ 2 ทักษะต่อไปนี้ รับรองว่าได้ใช้แน่ๆ

หนึ่ง – การสื่อสาร

“ต่อให้เราเก่งแค่ไหน เราเข้าใจเรื่องยากๆ ได้ แต่เราสื่อสารไม่ได้ มันก็ไม่สามารถ implement ได้อยู่ดี”

สอง – การเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ อย่างรวดเร็ว

“หลายเรื่องมาเร็วไปเร็ว อย่างปีสองปีที่แล้วเราก็จะได้ยินเรื่องคริปโตฯ เรื่องบล็อกเชน จังหวะที่มาก็มาอย่างบ้าคลั่ง คือทุกคนต้องรู้ ทุกคนพูดถึง ดังนั้นเราก็ควรเข้าใจได้เร็ว อาจไม่ได้ต้องเข้าใจหมด แต่เข้าใจแก่นของมันว่าคืออะไร เพื่อที่จะได้มองเห็นว่า อะไรคือสิ่งที่เราควรโฟกัส และเราจะเอามาใช้งานได้อย่างไร”

Bluebik กำลังเปิดรับสมัครงานหลากหลายตำแหน่ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bluebik.com/career