CMG ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก ประสบความสำเร็จในการปลดล็อคศักยภาพการบริหารจัดการข้อมูลสำหรับองค์กร ผ่านการขับเคลื่อนของเทคโนโลยี Data Intelligence (SAP DI) จาก SAP ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์สำเร็จรูปประเภทการวางแผนทรัพยากรองค์กร หรือ ERP ระดับชั้นนำ โดยได้รับการสนับสนุนจาก Bluebik (บลูบิค) ผู้ให้บริการรายแรกที่ SAP Thailand ไว้วางใจให้นำ SAP DI ไปติดตั้งให้กับลูกค้า เพื่อใช้งานในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ด้วยความเข้าใจในกระบวนการทำงานของระบบ SAP เป็นอย่างดี และความเชี่ยวชาญทางเทคนิคขั้นสูงของทีมงาน
ทำความรู้จักธุรกิจของ CMG
บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด หรือ CMG
“Central Marketing Group (CMG)” บริษัทสัญชาติไทยภายในเครือ “Central Retail (CRC)” เป็นองค์กรแนวหน้าในแวดวงธุรกิจค้าปลีก (Retail) ผู้แทนจัดจำหน่ายและผู้ดำเนินการชั้นนำให้กับแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำทั่วโลกกว่า 40 แบรนด์ในประเทศไทยและเวียดนาม โดยแบรนด์สินค้าที่ CMG ดูแลนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่หลัก ได้แก่ แฟชั่น (Fashion) ความงาม (Beauty) เทคโนโลยี (Technology) และนาฬิกา (Watches) ซึ่งเป็นสินค้าจำพวกเสื้อผ้า รองเท้า ความงาม เครื่องสำอาง กางเกงยีนส์ หรือสินค้าไลฟ์สไตล์
CMG ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยบุคลากรกว่า 3,000 คนในความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความพึงพอใจด้วยความเข้าใจลูกค้าสู่การคัดสรรแบรนด์สินค้าที่เป็นที่นิยมมากที่สุดทั่วโลกและได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจการันตีจากการได้รับอนุญาตเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้กับสินค้าแบรนด์ดังมากกมาย
SAP DI คืออะไร
SAP DI เป็นเครื่องมือ (Tool) ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก SAP Data Service หรือ SAP DS ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายและเป็นที่คุ้นเคยของผู้ใช้งานระบบ SAP มาอย่างยาวนาน
SAP DI โซลูชันที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อปลดล็อคศักยภาพการบริหารจัดการข้อมูลสำหรับองค์กรที่สามารถทำงานได้ กับทั้งระบบที่อยู่บน Cloud และ On-Premise
คุณสมบัติเด่นของ SAP DI คือ เป็น Cloud-Based Solution ที่สามารถทำงานกับระบบข้อมูลบนแพลตฟอร์ม On-Premise ได้ด้วย ดังนั้น SAP DI ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญในการบริหารจัดการข้อมูล ที่สามารถตอบโจทย์เทรนด์การทำธุรกิจที่มีการใช้งานทั้งระบบ Cloud และ On-Premise รวมถึงรับมือกับความท้าทายในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ดังต่อไปนี้
- การรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อน และมีรูปแบบ/โครงสร้างที่แตกต่างกัน
- การรวบรวมข้อมูลได้อย่าง รวดเร็ว แม่นยำ และสะดวกในการนำไปใช้งานต่อ
- ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล (Data Breach)
ยกระดับธุรกิจ Retail สู่ความคล่องตัวอย่างยั่งยืน
CMG และ Bluebik ร่วมกันฝ่าด่านความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการใช้นวัตกรรมของ SAP DI โซลูชันการบริหารจัดการข้อมูลที่ครบวงจร รองรับข้อมูลขนาดใหญ่ที่หลากหลายและมีความซับซ้อนสูง เปลี่ยนข้อมูลที่กระจัดกระจายให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่พร้อมใช้งาน เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตทางธุรกิจ
CMG ดำเนินธุรกิจ Retail ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่มีปริมาณข้อมูลทางธุรกิจเชิงลึกจำนวนมหาศาล (Big Data) การเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อให้ระบบสามารถประมวลผลข้อมูลให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คือ ความท้าทายที่ CMG ตั้งโจทย์ไว้
- ผสานรวมและจัดการปริมาณข้อมูลมหาศาลโดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบเดิมที่ใช้งานอยู่
- ประมวลผลได้รวดเร็วเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน
- รองรับการต่อยอดไปสู่นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย Artificial Intelligence (AI) Machine Machine Learning
- เพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลข้อมูลและยกระดับความปลอดภัยในการรักษาข้อมูล
ที่ผ่านมา CMG ได้เคยพยายามลงทุนเพื่อจัดการ Big Data ให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว แต่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่คาดหวังไว้ อุปสรรคด่านสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญต่างต้องเจอไม่ใช่เพียงแค่การนำนวัตกรรมล้ำสมัยเข้ามาปรับใช้ แต่การเข้าใจองค์รวมของระบบธุรกิจจริง เป็นปัจจัยหลักที่จะต้องสร้างการผสานรวมการทำงานร่วมกับนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาอย่างชาญฉลาด และ Bluebik (บลูบิค) ได้กลายมาเป็นบริษัท Implementer รายแรกของไทยที่ติดตั้ง SAP DI สำเร็จ จากการแสดงให้ประจักษ์ถึงผลลัพธ์ที่ทาง CMG ตั้งโจทย์ไว้ก่อนหน้า จนนำมาสู่การประกาศความสำเร็จร่วมกันในครั้งนี้ เรามาติดตามบทสัมภาษณ์ร่วมจากผู้บริหารทั้ง 2 ท่าน
คุณวรัทย์ ไล้ทอง | คุณตรีปราง อู่นนทกานต์ |
ผู้อำนวยการสายงาน ERP Advisory | อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบัญชีและการเงิน |
บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) | Central Marketing Group (CMG) |
จากที่ได้พูดคุยกับคุณวรัทย์ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบลูบิคจึงได้รับความไว้วางใจจาก SAP Thailand และทำไม โครงการนี้ถึงประสบความสำเร็จจนกลายเป็น Implementer SAP DI รายแรกของไทย คุณวรัทย์ ผู้ให้บริการที่เข้าใจความซับซ้อนของ SAP เป็นอย่างดี | สิ่งที่คุณตรีปราง ถ่ายทอดออกมา เป็นประสบการณ์ของผู้ใช้งานจริงที่ผ่านปัญหาต่าง ๆ มาจนถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับปรุงระบบด้วยการนำเทคโนโลยีที่มีความฉลาดเพื่อรองรับ Big Data ของ CMG คุณตรีปราง ผู้ใช้ที่เข้าใจว่า CMG ต้องการโจทย์อะไรด้านการเงินจาก SAP |
บทสัมภาษณ์ที่ทำให้เข้าใจจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
ทางทีม Tech TalkThai ได้เปิดคำถามแรกไปที่ เป้าหมายของ CMG ในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้ เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำตลาด Lifestyle Retail
โดยคุณตรีปราง ได้เล่าให้ฟังว่า
“เรายึดมั่นในวิสัยทัศน์ของ CEO แห่ง Central Group “To be the best sustainable and admire customer centric omnichannel retailer wherever you operate” ที่เป็นจุดผลักดันให้บริษัทในเครือฯ เร่งพัฒนาภายในองค์กร เพื่อการนำด้านธุรกิจค้าปลีกซึ่งรวมไปถึงการบริการจัดการแบรนด์สินค้าชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 40 แบรนด์ อาทิเช่น กลุ่มสินค้าแฟชั่น บิวตี้ นาฬิกา เทคโนโลยี และอื่น ๆ ปัจจุบันเราต้องการนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงยกระดับให้ธุรกิจของ CMG เพื่อเพื่อความยั่งยืนให้กับองค์กรในการสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ปัจจุบัน CMG มีจำนวน 3,800 กว่าจุดขายที่เปิดให้บริการลูกค้าของเรา ในทุก ๆ ปีเราจะมีแผนงบประมาณการลงทุนปรับปรุงระบบด้านเทคโนโลยีในความสำคัญเป็นลำดับต้นของขององค์กร”
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เลือกใช้โซลูชัน SAP DI จาก Bluebik ทั้งที่มีผู้ให้บริการรายอื่น ๆ เข้ามานำเสนอให้ CMG พิจารณาโซลูชันเปรียบเทียบเช่นกัน
“โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากที่เราพยายามทำ SAP ERP เดิมที่เรามีอยู่ให้สอดรับกับรูปแบบธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ โดยเฉพาะช่องทางการขายที่เปลี่ยนแปลงไป นี่คือจุดเริ่มต้นที่เราต้องการก้าวต่อไปจากมุมมองว่า ปริมาณของข้อมูลจำนวนมหาศาลของเราที่มีอยู่ทั้งอดีต ปัจจุบัน รวมไปถึงข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เราจะนำนวัตกรรมอะไรเข้ามาประมวลผล การตัดสินใจเลือกใช้ SAP Data Intelligence หรือ DI สืบเนื่องมาจากระบบของเราใช้งานระบบ SAP เดิมอยู่แล้ว จึงคิดว่าการมีระบบ Simulate integration จะสามารถเข้ามาบริหารจัดการประมวลผล Big Data ที่เรามีอยู่ได้ง่ายดายที่สุด โดยก่อนหน้านี้เราต้องเพิ่มกระบวนการการตรวจสอบความถูกต้องผ่านการปฏิบัติงานของพนักงานของเรา ซึ่งต้องใช้ระยะเวลามากพอสมควรและยังจะมีกระบวนการตรวจทานซ้ำอีกรอบ เพื่อความแม่นยำของข้อมูลที่ครบถ้วน”
คุณตรีปราง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
“เราเปิดรับพิจารณาผู้ให้บริการที่มีความชำนาญการเฉพาะหลายราย และสุดท้ายทางทีม CMG ได้เห็นพ้องกันเลือกใช้ SAP DI จากทาง Bluebik เพื่อให้เข้ามาช่วยผสานรวมการทำงานระบบของเราให้มีความคล่องตัวและยั่งยืน จริง ๆ แล้ว ปัญหาหลักที่เรากำลังเผชิญอยู่น่าจะเป็นส่วนของ Big Data ที่เรามีอยู่ ซึ่งมีความซับซ้อนและความต้องการที่จะนำข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผลในหลาย ๆ มิติในธุรกิจของเรา เราคาดหวังว่า คนที่มีความเข้าใจในความซับซ้อนของระบบ SAP จะมีความเข้าใจความซับซ้อนในธุรกิจของ CMG ได้มากที่สุด และต้องชื่นชมทาง Bluebik ที่กล้านำเสนอ SAP DI รุ่น Prototype ให้กับเราได้สัมผัสประสบการณ์จริงของการทำงานจริงก่อนจะตัดสินใจเลือก นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ทางทีม CMG ตัดสินใจว่า SAP DI จาก Bluebik ใช่สำหรับเรา”
เมื่อถึงเวลาจะต้องปรับปรุงระบบด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินงาน เพื่อความคล่องตัว ความยืดหยุ่น สู่ความยั่งยืน ทางทีม Tech TalkThai จึงอดไม่ได้ที่จะถามคุณวรัทย์ ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จครั้งนี้
โซลูชัน SAP ที่ Bluebik นำเสนอเพื่อแก้ไข Pain Point ของทาง CMG คืออะไร และมีกระบวนการทำงานอย่างไรบ้าง
“โจทย์ที่ได้รับจากทาง CMG คือ ความต้องการจะดึงข้อมูลที่มีอยู่จำนวนมหาศาลใน SAP ไปวางไว้บนระบบคลาวด์ หลังจากนั้นจะนำระบบ Visualization ต่าง ๆ เข้ามาเชื่อมต่อและประมวลผลข้อมูล เพื่อนำเสนอข้อมูลเหล่านั้นในรูปแบบ Dashboard หรือ Report ต่าง ๆ เมื่อเราทราบโจทย์ที่กล่าวมานี้ ทางทีม Bluebik มีแนวคิดเดียวกันว่า เครื่องมือ(Tool) ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการดึงข้อมูลขนาดใหญ่จาก SAP ที่ CMG ใช้งานอยู่ ควรจะเป็นเครื่องมือของทาง SAP เอง เพื่อให้การเชื่อมโยงและประมวลผลข้อมูลเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงเลือกนำเสนอ SAP Data Intelligence หรือ SAP DI มาเป็นตัวขับเคลื่อนในโครงการนี้”
คุณวรัทย์ อธิบายเสริมว่า “SAP DI เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อดึงข้อมูลจาก SAP แล้วนำไปวางไว้บนระบบคลาวด์ได้ทันที รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่อยู่นอกเหนือใน SAP ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งตรงกับสถานการณ์จริงของข้อมูลที่ทาง CMG มีอยู่”
ข้อมูลปริมาณมหาศาลที่ CMG มีอยู่นั้น มีขนาดใหญ่มากแค่ไหน คำถามนี้คนที่จะตอบได้ดีที่สุด ก็คือ คุณวรัทย์ ผู้ที่ได้ประจักษ์กับตาตัวเอง
“เป็นคำถามที่ดีมากครับ จริง ๆ แล้วผมเองก็อยากจะเล่าให้ฟังเช่นกัน วันแรกที่ทีม Bluebik ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลของ CMG ซึ่งต้องเล่าย้อนกลับไปในช่วงก่อนที่ CMG จะตัดสินใจเลือก SAP DI จาก Bluebik เราไม่ได้เพียงแค่เข้ามาพรีเซนต์เพื่อนำเสนอ แต่เราใช้โซลูชันจริงเพื่อทำ Proof of Concept (PoC) ให้ดู โดยทาง CMG เป็นผู้มอบโจทย์ Dashboard และ Repor ให้ทางเรานำไปพัฒนาและประมวลผลให้ดู โดยใช้ข้อมูลจริงทั้งหมด แน่นอนว่า Bluebik ต้องการทำให้เห็นภาพจริง และทาง CMG ก็ต้องการเห็นการทำงานจริงเช่นกันว่า SAP DI จะสามารถรองรับข้อมูลปริมาณมหาศาลและทำได้จริงตามโจทย์ที่กำหนดไว้หรือไม่ จะกระทบกับระบบของ CMG มากน้อยแค่ไหน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก เราสามารถดึงข้อมูลจำนวนมหาศาลของ CMG ออกมาทำ Dashboard และ Report ให้ลูกค้าได้จริงและที่สำคัญไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการทำงานของลูกค้าเลย”
“สำหรับขนาด Big Data ของ CMG นั้น เพียงแค่ข้อมูลด้านบัญชีและการเงินก็มีมากถึงระดับพันล้านเรคคอร์ดแล้ว ภาพที่ผมเห็นด้วยตาตัวเอง ณ วันนั้น ตัวเลขจริง คือ 1,400 ล้านเรคคอร์ด แล้วในแต่ละวันข้อมูลด้านบัญชีและการเงินนี้จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านเรคคอร์ดต่อวัน นี่แค่ข้อมูลด้านบัญชีและการเงินนะ ยังไม่รวมข้อมูลด้านอื่น ๆ”
“การที่เราจะนำเสนอโซลูชันใดก็ตาม เราจะต้องไม่มองเฉพาะวันนี้เท่านั้น แต่เราต้องคำนึงถึงความเติบโตของข้อมูลในอนาคตประกอบด้วย เราต้องออกแบบระบบที่สามารถรองรับความเติบโตของข้อมูลใน 5 – 10 ปีข้างหน้าได้ สิ่งที่ผมกล่าวมาทางทีม Bluebik ได้ทำ PoC ให้เห็นภาพจริงด้วยว่า โซลูชันที่นำเสนอสามารถรองรับจำนวนข้อมูลที่จะเติบโตขึ้นใน 5 – 10 ปีข้างหน้าได้จริง นี่อาจจะเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นจาก CMG สู่ความไว้วางใจให้ Bluebik เข้ามาเป็นผู้ให้บริการในโครงการนี้” คุณวรัทย์ กล่าว
แล้วในประเทศไทย โซลูชัน SAP Data Intelligence หรือ SAP DI มีองค์กรไหนกำลังใช้งานอยู่บ้าง
“ในประเทศไทย CMG เป็นองค์กรแรกที่ใช้ SAP DI”
คุณวรัทย์ เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของโซลูชัน SAP DI ในฐานะที่ Bluebik เป็นบริษัท Implementer รายแรกของไทยที่ติดตั้ง SAP DI สำเร็จ
“SAP DI ถูกออกแบบและพัฒนามาจากเครื่องมือชุดเดิมของ SAP ที่มีชื่อเรียกว่า Data Services แล้วต่อยอดมาเป็น Data Intelligence สำหรับในประเทศไทย ยังไม่มีองค์กรใดใช้งาน SAP Data Intelligence มาก่อน CMG เป็นองค์กรแรกที่ได้นำมาใช้งานจริงผ่านการให้บริการจาก Bluebik (บลูบิค) เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ SAP Thailand ไว้วางใจให้นำ SAP DI ไปติดตั้งให้กับลูกค้า เพื่อใช้งานในประเทศไทยเป็นครั้งแรก”
“การจะเป็นผู้ให้บริการโซลูชัน SAP DI และนำข้อมูลในระบบ SAP ไปใช้งานได้อย่่างมีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งในด้านเทคนิคและกระบวนการทำงานที่มีความซับซ้อนของระบบ SAP อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณทาง SAP Thailand ที่มองเห็นศักยภาพของทาง Bluebik และให้โอกาสเราเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่สามารถนำเครื่องมือ SAP DI ไปต่อยอดได้สำเร็จจริง”
เรามาฟังประสบการณ์จากผู้ใช้งาน SAP DI หลังปรับใช้กับกระบวนการทำงานของ CMG ว่าถูกยกระดับในมิติใดบ้าง ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร มีตัวชี้วัดที่จับต้องเป็นรูปธรรมได้บ้างหรือไม่ อย่างไร
คุณตรีปราง กล่าวไว้อย่างน่าสนใจ ทำให้มองเห็นแนวโน้มว่าจะมีการนำโซลูชัน SAP DI ไปใช้งานครอบคลุมถึงแผนกอื่นๆ ของ CMG ในอนาคต และคุณตรีปราง ยังแอบเผยข้อมูลเกี่ยวกับแผนการต่อยอดต่อไปหลังจากนี้อย่างมีนัยะ
“ต้องยอมรับว่าทาง CMG คาดหวังไว้สูงกับ SAP DI และ Bluebik ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สำหรับ Dashboard แรกที่เราให้โจทย์ไป Bluebik ใช้ระยะเวลาในการพัฒนาสั้นมาก หลังจากที่เราเปิดตัวการทำงานรูปแบบ Dashboard ให้กับกลุ่มผู้ใช้งาน ผลตอบรับกลับมาค่อนข้างพึงพอใจ คำว่า Dashboard ในนิยามของผู้ใช้ จะต้องง่าย เห็นภาพรวมได้อย่างชัดเจน และสามารถนำไปใช้งานได้ทันที Dashboard ที่มีประสิทธิภาพจะต้องมองแล้วเข้าใจได้ถึงสิ่งที่มีความผิดปกติของธุรกิจได้ เพราะเป็นสิ่งที่เราจะต้องเร่งเข้าไปทำการวิเคราะห์และเร่งปรับแก้กระบวนการทำงานที่ผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่ง ณ ตอนนี้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการส่วนนี้ได้แล้ว นอกจากนี้ ยังสามารถ Monitor และใช้จริงได้แบบ Real-time ได้ในบางรายการ อนาคตคาดว่าจะออนไลน์ได้ทั้งระบบ”
“เมื่อเราเห็นความสำเร็จของโครงการนี้ จึงมีแนวคิดว่า Dashboard นี้จะสามารถเป็นแบบอย่างในการนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในส่วนงานแผนกอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่ง ณ ตอนนี้ได้มีในบางแผนกที่เสนอความต้องการให้เราเข้าไป Demo ให้ดูบ้างแล้วเช่นกัน”
“อันที่จริง เรายังมีงานส่วนอื่น ๆ ที่กำลังจะต่อยอด และที่สำคัญเราได้คุยกับทาง Bluebik เรียบร้อยแล้ว เรามองว่า Foundation Data ที่วางอยู่บนระบบคลาวด์ที่ CMG มีอยู่ สามารถทำอะไรต่อได้อีกมากมาย หลังจากที่พูดคุยร่วมกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้มีโครงการใหม่เกิดขึ้นแล้ว เราเชื่อว่า Foundation Data ที่ถูกต้อง นำมาสู่การวิเคราะห์ที่แม่นยำ สามารถใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้ให้บริการว่าจะทำให้การประมวลผลรวดเร็วและแม่นยำได้มากแค่ไหน“
คำกล่าวจากคุณตรีปราง ทำให้เราอยากเห็นภาพโซลูชันที่จะทำการต่อยอดหลังจากนี้ โดยคุณวรัทย์ ได้กล่าวเสริมอีกว่า
“พอเรามี Foundation Data ที่มีประโยชน์แล้ว การนำไปประมวลเป็น Dashboard เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ คุณตรีปราง มองไปถึงการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาผสานการทำงานร่วมกับ Foundation Data หลังจากมีการพูดคุยเบื้องต้นกันแล้ว ในอนาคตเราอาจจะได้มานั่งเล่าเรื่องนี้ให้ฟังกันแน่นอน ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกินสิ้นปีนี้ เราน่าจะมีเฟสแรกออกมา”
แล้วหน้าแสดงผล Dashboard ที่ใช้งานจริง ทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นในแง่ใดบ้าง
“อันดับแรก เราสามารถมองเห็นรายงานการขายทั้งรายวัน รายแบรนด์ รายจุดขายทั้ง 3,800 แห่งที่เรามี ทันทีที่มีการบันทึกการขายเราสามารถมองเห็นข้อมูลได้ครอบคลุมทั้งหมดแบบ Real-time ในบางแห่ง ทำให้เราสามารถทำการประมวลผลในแง่ของกลุ่มลูกค้าที่เรามีอยู่ เพื่อนำไปต่อยอดแผนการตลาดได้ทันที ซึ่งแบ่งแยกเพศ ช่วงวัย อายุ หรือสัญชาติ ข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญต่อการประมวลผลเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับทิศทางการตัดสินใจของธุรกิจให้สอดคล้องกับสินค้าที่ CMG จัดวางจำหน่ายทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์สินค้าแฟชั่น เราสามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำว่า ใครคือกลุ่มลูกค้าที่แท้จริงของเรา เราจะสามารถมุ่งเป้าการนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”
คุณตรีปราง กล่าวสรุปได้อย่างน่าสนใจ พร้อมทิ้งท้ายไว้ว่า
“ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเริ่มทำ Dashboard แต่เป็นครั้งแรกที่เรามี Dashboard ที่ดูง่ายขึ้น หลายปีก่อนเราเคยพยายามปรับปรุง Dashboard แต่ยังดูข้อมูลได้ยากมาก ใช้ระยะเวลาในการประมวลผลนาน”
บทสรุป
“เราไม่ได้ต้องการปรับปรุงระบบด้วยการใช้งานนวัตกรรมแค่ภายในองค์กร เรายังต้องการข้อมูลจากภายนอกเพื่อเข้ามาวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ เพราะธุรกิจคือการแข่งขัน เราจะทำอย่างไรให้สามารถมองเห็นภาพรวมทั้งภายในและภายนอก เฟสถัดไปเราจึงมองว่า AI จะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญ เพื่อรองรับการขยายตัวของการเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนได้จริง เพราะข้อมูลที่ถูกต้องมีผลต่อการตัดสินใจทางธุรกิจ ความยืดหยุ่นที่ Bluebik ออกแบบมาให้ CMG ไม่ได้จบอยู่ที่โจทย์ที่เราให้ไปเท่านั้น แต่ยังสามารถขยายขีดความสามารถครอบคลุมส่วนงานอื่น ๆ ได้อีกด้วย นี่คือ บทบาทของการเป็น Partner ที่ยอดเยี่ยม” คุณตรีปราง กล่าวสรุปส่งท้าย
หากองค์กรใดสนใจโซลูชัน SAP DI หรือโซลูชันอื่น ๆ ของ SAP
สามารถติดต่อ Bluebik ได้ผ่านทางอีเมล [email protected] หรือโทร 0-2636-7011
รวมทั้งสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับ SAP Data Intelligence เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://bluebik.com/th/insights/6876