fbpx

Search

Bluebik is trusted by leading organizations

Customer Experience (CX) ปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ

ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราไปจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง ธุรกิจและผู้ประกอบการต่าง ๆ ได้ปรับตัวเข้าหาโลกดิจิทัล ซึ่งหนึ่งในประเด็นร้อนแรงที่สุดในแวดวงที่ปรึกษาคือเรื่อง "ประสบการณ์ของลูกค้า" หรือ " Customer experience (CX)"  ประสบการณ์ลูกค้า คือการเชื่อมโยงระหว่าง ลูกค้าและธุรกิจ เป็นสิ่งที่ลูกค้ารู้สึกกับสินค้าตั้งแต่ต้นการเข้าถึงไปจนใช้สินค้าและบริการนั้นแล้ว หากมีปัญหาในจุดใดอาจจะสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีระหว่างธุรกิจและลูกค้าได้ หาก "แบรนด์" คือการแสดงออก "ประสบการณ์ลูกค้า" ย่อมหมายถึงการพาลูกค้าเข้ามาสัมผัสแบรนด์อย่างแท้จริง โดยกว่า 50% ของลูกค้าก็พร้อมที่จะเปลี่ยนไปใช้บริการเจ้าอื่นได้ทันทีหากมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น  ทั้งนี้ ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า สามารถสร้างอัตราการเติบโตของรายได้ ได้มากว่าบริษัทที่ไม่ได้ทำด้านประสบการณ์ลูกค้าถึง 10% แสดงให้เห็นว่า "ถูกที่สุด ดีที่สุด" อาจไม่จริงเสมอไปในโลกอนาคต หากได้ในสิ่งที่ต้องการ “นั่นก็คือประสบการณ์ที่ดีกว่า ที่ไม่สามาร...

10 ตุลาคม 2019

Bio-payment มิติใหม่ของการจ่ายเงินยุคสังคมไร้เงินสด

"เดินตัวเปล่า ก็จ่ายเงินได้ " ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่ยุคสังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบในอีก 5 ปี ด้วยการจ่ายเงินแบบไม่ต้องใช้เงินสด ไม่ต้องใช้บัตร ไม่ต้องใช้มือถืออีกต่อไป กับการจ่ายเงินรูปแบบใหม่ที่กำลังจะมาถึง นั้นก็คือการจ่ายเงินแบบ “Biometric Payment”  หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “Bio-payment”  ซึ่งเป็นการจ่ายเงินโดยใช้อัตลักษณ์ของผู้จ่ายเป็นสิ่งยืนยันตัวตน  ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่ได้รู้จักและหันมาใช้จ่ายเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลายช่องทางมากขึ้น จากมาตราการกระตุ้นส่งเสริมของภาครัฐ อาทิ โครงการ Promptpay (พร้อมเพย์) เป็นนโยบายผลักดันระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ National e-Payment ที่ให้ประชาชนผูกเลขบัญชีกับเลขประจำตัวประชาชนหรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อรับ/โอนเงินได้ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม หรือมีค่าธรรมเนียมน้อยกว่าการโอนผ่านธนาคารพาณิชย์  ด้านภาคเอกชน ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ได้ออกมากระตุ้นการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการเปิดการชำระเงินผ่านระบบ QR Code เป็นต้น  จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ระบุว่า ภาพรวม...

10 ตุลาคม 2019

แข่งขันอย่างไร้ขอบเขตผ่าน Digital Ecosystem

การเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้โลกของการทำธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปมากเมื่อธุรกิจต่างๆ สามารถขยายความสามารถของบริการและผลิตภัณฑ์ของตนเองให้มีความซับซ้อนมากขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลง การแข่งขันแบบเดิมๆ ที่แข่งกันด้วย Product feature และ Cost จึงเริ่มเป็นสนามแดงเดือดที่ทำให้ทุกอุตสาหกรรมต้องพบกับความยากลำบากในการเอาชนะคู่แข่ง อีกทั้งบริษัท Startup ต่างๆ ที่มีความสามารถทางเทคโนโลยีสูงก็เริ่มที่จะเข้ามาท้าทายผู้เล่นรายเดิมๆ มากขึ้น เกมการแข่งขันในโลกดิจิทัลจึงไม่ได้ใช้กลยุทธ์ตรงไปตรงมาเหมือนแต่ก่อน ต้องอาศัยความเข้าใจว่าโลกดิจิทัลมีกฎเกณฑ์อะไรที่ทำให้ธุรกิจสร้างความได้เปรียบได้ หนึ่งในกลยุทธ์ที่หลายๆ ธุรกิจเริ่มนำมาใช้ในการแข่งขันคือการผลักดันตัวเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Digital Ecosystem และใช้ประโยชน์จากพันธมิตรใน Ecosystem นั้นๆ Digital Ecosystem คืออะไร ? เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าผู้บริโภคในปัจจุบันมีความต้องการที่จะทำทุกอย่างบนช่องทางออนไลน์และในบางครั้งก็ต้องก...

“Omni-Channel” สร้างธุรกิจอย่างเหนือชั้น ทลายเส้นแบ่งออนไลน์และออฟไลน์

แม้ว่าโลกดิจิทัลได้เปิดโอกาสให้กับธุรกิจมากมาย ผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วขึ้น แต่ช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์เพียงอย่างเดียวก็อาจไม่สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้  นั่นเพราะผู้บริโภคในโลกปัจจุบันไม่ได้ยึดติดอยู่ช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายๆ เช่นการที่หลายคนสืบค้นข้อมูลของสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ แต่กลับซื้อผ่านร้านค้าในช่องทางออฟไลน์ เพราะต้องการแน่ใจว่าจะได้รับของที่มีคุณภาพจริง หรือหลายๆคนไปชมสินค้าจริงถึงร้าน แต่กลับมาสั่งซื้อออนไลน์ เพราะสะดวกเรื่องการขนส่งและราคาอาจถูกกว่า ดังนั้นการนำจุดแข็งทั้งสองช่องทางมารวมเป็นหนึ่ง จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อและความน่าสนใจให้กับลูกค้า สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันที่เหนือคู่แข่ง (Competitive advantage) เพราะจะสามารถสร้างความประทับใจ สร้างฐานลูกค้าประจำ ทำให้เกิดการแนะนำแบบปากต่อปากจากลูกค้า (Word of mouth) จนสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด เมื่อรวบรวมข้อมูลจากทุกช่องได้โดยการบริหารเพียงทางเดีย...

There’s a FIRST TIME for everything

จากเด็กจบใหม่สู่ Head of people Team   Sutida Chansomboon เริ่มต้นนับหนึ่งกับ Bluebik Group ในฐานะเด็กจบใหม่จากรั้วมหาลัยก่อนจะก้าวมาเป็น Head of People Team ของบริษัทภายในเวลาเพียงสามปี แน่นอนว่าการเดินทางบนสายอาชีพ HR ที่ต้องดีลกับคนหลากหลายรูปแบบย่อมเป็นเส้นทางที่ท้าทายและเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจมากมาย  จากเด็กอักษรสู่  Head of People Team   “เราไม่เคยมีความคิดหรือเป้าหมายจริงจังว่าเรียนจบไปต้องทำงานอะไรเลย ตอนนั้นมี mindset ว่างานที่คนอย่างเราน่าจะทำได้ก็คงเป็นเลขาฯ ไม่ก็ HR  เพราะฉะนั้นตอนสมัครงาน ก็สมัครหว่านไปทั้งหมด แต่สุดท้ายงานแรกในชีวิตก็คือได้เข้ามาเป็นเลขาฯให้กับ Pakorn Jiemskultip, CTO of Bluebik Group ตอนนั้นบริษัทมีกันอยู่ไม่ถึง 10 คน งานเลขาฯแบบที่เราเห็นในหนังฝรั่ง จำพวกรับโทรศัพท์แทนนาย ติดตามนายก็คือแทบจะไม่ได้ทำ งานส่วนของเราก็จะดูแลเรื่องอื่นๆทั้งหมดของบริษัท เป็นอย่างนี้มาตลอดจนบริษัทโตมากขึ้น จากจำนวนคนที่มีแค่หลักหน่วยก็เพิ่มจำนวนขึ้นมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ต้องมีคนรับผิดชอบเรื่อง HR แบบจริงจังซักที ทางผู้บริหารของบริษัทจึงเรียกเราไปคุยว่าอยากขยั...

9 ตุลาคม 2019

5 วิธีการทำงานแบบอไจล์ (Agile) ที่ไม่จำกัดการใช้งานแต่กับสตาร์ทอัพ

5 วิธีเปลี่ยนการทำงานขององค์กร ให้ก้าวสู่รูปแบบอไจล์ (Agile) เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ และแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว…  วันนี้หลายองค์กรในโลกธุรกิจ ได้เลือกใช้วิธีการทำงานนี้ กับหลาย ๆ โครงการ หรือแม้กระทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ ๆ ซึ่งสามารถทำได้ 5 วิธี ได้แก่ การแบ่งรอบการดำเนินงานเป็นระยะเวลาสั้นๆ, การทำงานโดยใช้ Task board, การมีประชุมสั้นๆก่อนเริ่มงานทุกวัน, การรีวิว และทดสอบงานในทุกๆ ช่วงการดำเนินงาน และการวิเคราะห์วิธีการทำงานที่ผ่านมาเพื่อการพัฒนา   5 วิธีการทำงานแบบอไจล์ (Agile) การทำงานแบบอไจล์ (Agile) หรือ การทำงานในทีมที่ประกอบไปด้วยบุคลากรจากหลายสายงาน แทนการทำงานแบบส่งไม้ต่อระหว่างแผนก เน้นการสื่อสารระหว่างบุคคลเพื่อความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น กระจายอำนาจการตัดสินใจ และเปลี่ยนวิธีการทำงาน   จากการกำหนดเป้าหมายระยะยาวแบบมุ่งไปครั้งเดียว เป็นแบบระยะสั้นๆ หรือที่เรียกว่า สปรินท์ (Sprint) เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ ซึ่งเกิดขึ้นได้ทุกวัน และแก้ไขปัญหาข้อผิดพ...

Marketing automation เครื่องมือการตลาดแห่งโลกอนาคต

ถ้าอยากจะรุ่ง การตลาดแบบเดิมๆ อาจจะไม่เพียงพอในยุคดิจิทัล  ในยุคที่ผู้คนให้ความสนใจกับเวลาและผู้คนมีความซับซ้อนมากขึ้น  การทำการตลาดแบบเดิมๆอาจไม่เพียงพอและไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อีกต่อไป การตลาดในยุคดิจิทัล ไม่ใช่แค่การทำให้คนรู้จักสินค้าเรา หากแต่ต้องเป็นการนำเสนอสินค้าที่ตรงใจลูกค้า และเสนอได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา สะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะในปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้ “โทรศัพท์มือถือ” ในการทำทุกอย่าง จนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ดังนั้นธุรกิจในยุคดิจิทัลจึงต้องพัฒนาสินค้าและบริการให้รองรับการใช้งานบนมือถือด้วย    การที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับมือถือเหมือนจะเป็นเรื่องดีและง่ายต่อการทำการตลาด แต่กลับมีความยากที่ซ่อนอยู่ นั่นคือพฤติกรรมของลูกค้าที่จดจ่อกับข้อมูลต่างๆ สั้นลง ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น รวมไปถึงคาดหวังให้ธุรกิจรู้จักตัวตนของลูกค้าโดยที่ไม่ต้องบอกรายละเอียด นำเสนอสินค้าที่ต้องการในเวลาที่กำลังมองหา พฤติกรรมดังกล่าวทั้งหมดเป็นที่มาที่ทำให้การตลาดแบบเดิมๆ ถึงทางต...

ความแตกต่างระหว่าง Omni-channel กับ Multi-channel

Omni-channel กับ Multi-channel ต่างกันอย่างไร?  เมื่อช่องทางการให้บริการสินค้าหลากหลายมากขึ้น ธุรกิจส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเน้นการบริหารในรูปแบบ Multi-channel ที่มีจุดให้บริการ (Touchpoint) ในการเข้าถึงลูกค้าเพื่อสร้างความสะดวกและช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับจาก Multi-Channel จะแตกต่างกันในแต่ละช่องทาง เนื่องจากการบริหารจัดการที่ไม่เหมือนกันและมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจน ซึ่งต่างกับ Omni Channel ที่ผสานการทำงานทุกช่องทางให้สอดคล้องกันเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไม่แตกต่าง รวมถึงบริหารจัดการทุกช่องทางร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ส่งผลให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นไม่ว่าจะใช้งานสลับไปมาระหว่างช่องทางใดก็ตาม (Effortless) ยกตัวอย่างเช่น Starbucks ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเครื่องดื่มได้โดยสั่งผ่าน Application ในโทรศัพท์ และเมื่อไปถึงที่ร้านก็สามารถรับเครื่องดื่มได้ทันทีผ่านการแสดงใบเสร็จบนหน้าจอโทรศัพท์ ผสานการทำงานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กัน และทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไม...

8 ตุลาคม 2019

พัฒนาการทำงานขององค์กรในยุคดิจิตอลด้วย Agile

ในยุคที่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในโลกธุรกิจ พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความเร็วและการปรับตัวจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญ การทำงานโดยแนวคิดเดิมที่ มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย และกระจายงาน อย่างเป็นขั้นเป็นตอนอย่าง ‘Waterfall’ อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป จึงมีแนวคิดการทำงานแบบใหม่เกิดขึ้น นั้นก็คือ ‘Agile’ ที่เน้นการปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างองค์กรให้สามารถเติบโตในยุคนี้ได้อย่างยั่งยืน  ทำไมการทำงานรูปแบบเก่าถึงไม่ตอบโจทย์  แน่นอนว่าทุกองค์กรต่างรู้ดีว่าต้องปรับตัวให้ทันกับยุคดิจิทัล แต่มักจะประสบปัญหากับความล่าช้า ไม่ทันกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนไม่ทันบริษัทเล็กๆ อย่าง Startup ที่แม้จะมีประสบการณ์ที่น้อยกว่า แต่มีความคล่องตัวสูงกว่า แย่งออกผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ สู่ตลาดก่อนองค์กรใหญ่ๆ มีประสบการณ์ ความชำนวญที่มากกว่า มีการวางแผนการทำงานอย่างดีและเป็นขั้นเป็นตอน (Waterfall) แต่ก็เพราะจุดนี้แหละที่เป็นผลให้การดำเนินงาน การตัดสินใจต่างๆ เป็นไปอย่างล่าช้า เพราะเสียเวลาวางแผนมากมาย ต้องรอการอนุมัต...

24 กันยายน 2019

ประสบการณ์ 6 เดือน ฝึกงานที่ Bluebik

ฤดูกาลฝึกงานของน้อง ๆ หลายคนกำลังใกล้เข้ามาทุกที แต่ในขณะเดียวกันก็มีน้อง ๆ จำนวนไม่น้อยที่เพิ่งผ่านพ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวประสบการณ์นี้ไป หนึ่งในนั้นก็คือ น้องตุลย์ Business Analyst และ น้องบรรณ Front-end Developer   สองหนุ่มจากรั้วมช. ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวบลูบิคถึงหกเดือนเต็ม จะเป็นหกเดือนที่คุ้มค่าหรือเปล่าคงต้องไปฟังจากปากทั้งคู่เอง  Day 1  VS Last day ของการเป็น Intern ที่ Bluebik .  ตุลย์: ถ้ามองกลับไปในวันแรกที่ได้มีโอกาสเข้ามาฝึกงานในตำแหน่ง Business Analyst สิ่งที่รู้สึกแตกต่างเลย คือ แง่คิดและมุมมองในการทำงานที่กว้างขึ้น ซึ่งเกิดจากการที่พี่ๆให้เราลองทำ ลองปฏิบัติจริง ให้คำแนะนำเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด บางสิ่งที่เราไม่เคยทำและคิดว่ายาก พี่ๆ ให้เรียนรู้และลงมือทำจริง เหมือนได้ออกจาก Safe zone และกล้าทำสิ่งใหม่ๆมากขึ้น เป็นการฝึกงานที่ได้ประสบการณ์เยอะมากจริงๆครับ  บรรณ: งานส่วนใหญ่ที่ได้รับ Assigned มานั้นเกือบทั้งหมดจะเป็นโปรเจกต์จริง เลยทำให้เราได้ฝึกอะไรหลายอ...

23 กันยายน 2019