ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา การอุบัติขึ้นของโรคโควิด-19 ได้ส่งสัญญาณชัดเจนแล้วว่าเราไม่สามารถหลบเลี่ยง “การเปลี่ยนแปลง” ไปได้เลย คนทั่วโลกปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา เช่น การเรียนออนไลน์ การอุปโภคและบริโภคสินค้า การใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลและการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เป็นต้น ในขณะที่ผู้ประกอบการได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรและรูปแบบการทำธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หลายองค์กรอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับลูกค้าและกระบวนการทำงานหลังบ้าน โดยมีเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิตอล ถึงแม้ว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจ หรือที่เรียกว่า “Digital Transformation” เป็นวิธียอดนิยมที่องค์กรส่วนใหญ่เลือกใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานทั้งในแง่ของการพัฒนาสินค้าและบริการ เพิ่มโมเดลธุรกิจเพื่อลุยตลาดใหม่ ตลอดจนการพลิกฟื้นธุรกิจจากขาดทุนเป็นกำไร แต่ในทางกลับกัน หลายองค์กรทั่วโลกว่า 47% กลับพบกับความล้มเหลวจากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ เนื่องจากเทคโนโลยีที่นำมาใช้งานนั้นไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ขององค์กร และคนในองค์กรขาดความรู้และความเชี่ยวชาญในการเลือกใช้เทคโนโลยีให้เข้ากับธุรกิจของตนเอง ส่งผลให้องค์กรต้องเสียเวลาและต้นทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ ดั้งนั้น หากองค์กรต้องการประสบความสำเร็จจากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการปรับเปลี่ยน จำเป็นต้องอาศัยกลยุทธ์สำคัญที่เรียกว่า “Change Management หรือ การจัดการการเปลี่ยนแปลงขององค์กร” เพื่อให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ Change Management สำคัญอย่างไรต่อองค์กร Change Management เป็นการจัดการองค์กรที่คอยดูแลกระบวนการเปลี่ยนแปลงในแง่มุมต่าง ๆ ตั้งแต่ กลยุทธ์การบริหารองค์กร การวางแผน ระบบงาน จนถึงการสื่อสารระหว่างคนในองค์กรนั้นว่ามีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาธุรกิจหรือไม่ โดยวิธีการดังกล่าวสามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงขององค์กรได้ นอกจากการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องเหมาะสม การบริหารความเปลี่ยนแปลงจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ยังจะขึ้นอยู่กับ “บุคคลากร” อีกด้วย[1] […]