fbpx

‘5G’ เครื่องมือใหม่แห่งวงการค้าปลีก

           คลื่นความถี่ 5G นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เข้ามาจะพลิกโฉมกระบวนการทำงานของภาคธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวันของเราไปอย่างสิ้นเชิง ความเปลี่ยนแปลงที่ใกล้ตัวผู้บริโภคมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนหรือแกดเจ็ตไอทีต่างๆ ที่จะมีความรวดเร็วมากขึ้น ทำให้การดาวน์โหลด-อัพโหลดไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ซึ่งเคยเป็นเรื่องยาก สามารถทำได้สำเร็จโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ 5G จะเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคตอันใกล้              สำหรับวงการค้าปลีก เทคโนโลยี Virtual Reality หรือ AR ที่มีพื้นฐานมาจาก 5G จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ให้แก่ลูกค้า ลองนึกภาพตัวคุณเองที่ไม่สามารถออกจากบ้านเพื่อไปห้างสรรพสินค้าได้ตามใจชอบในช่วงโควิด-19 แต่ยังสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามปกติ เพราะมีเทคโนโลยี AR ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งเสมือนจริง ทำให้การเลือกซื้อสินค้าไม่ว่าจากที่บ้านหรือที่ไหนๆ ก็ไม่ต่างจากการเดินทางไปที่หน้าร้าน             นอกจากนี้ ในยุคปัจจุบันที่แต่ละธุรกิจมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น การทำการตลาดกลุ่มรวม (Mass Marketing)    ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป และจำเป็นต้องปรับรูปแบบมาทำการตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) เทคโนโลยี IoT ซึ่งต่อยอดมาจาก 5G ก็จะเข้ามาช่วยให้การตอบสนองความต้องการของลูกค้าทำได้ตรงจุดมากขึ้น เช่นเมื่อลูกค้าหยิบเสื้อที่มีการติดอุปกรณ์ IoT หน้าจอดิจิทัลในบริเวณใกล้เคียงก็จะแสดงผลกางเกงที่เข้าชุดกัน เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น               เทคโนโลยี 5G จึงนับเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างก้าวกระโดด แต่การจะใช้เครื่องมือใหม่ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต้องเริ่มจากการตั้งเป้าหมายขององค์กรให้ชัดเจน ว่าต้องการพัฒนาหรือสร้างจุดแข็งในเรื่องใด เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการวิเคราะห์ธุรกิจ เพื่อประเมินข้อจำกัดหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเร่งพัฒนาเป้าหมายให้เป็นจริง ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ   พร้อมทั้งจัดหาทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญมาบังคับใช้เครื่องมือดังกล่าว โดยสิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ การปรับตัวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง เพื่อหาช่องว่างในการทำธุรกิจ (ที่คู่แข่งยังมองไม่เห็น) และเร่งพัฒนาองค์กรของตนเองต่อไป ดังเช่น      คำกล่าวที่ว่า ‘คิดและลงมือทำก่อน..ชนะเสมอ’ ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bluebik ได้ที่ Website – www.bluebik.comFacebook – facebook.com/bluebikgroupTwitter – twitter.com/bluebikInstagram – instagram.com/bluebikgroupLinkedin – linkedin.com/company/bluebik […]

Read More…

Sharing Economy การทำธุรกิจแบบ Peer to Peer : Survive or Die

เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 5 – 10 ปีที่ผ่านมา กระแสธุรกิจ Sharing Economy เป็นแนวคิดสังคมเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน ที่มีลักษะณะการทำธุรกิจแบบ Peer to Peer (P2P) ซึ่งก็คือการจับคู่ระหว่างผู้ให้บริการที่มีทรัพย์สินหรือสิ่งของ เช่น ห้องพัก (Airbnb) รถยนต์ (Grab) ฯลฯ ที่ไม่ได้ใช้หรือมีมากเกินความจำเป็นกับผู้ใช้บริการที่มีความต้องการใช้สินค้าและบริการต่างๆ โดยการเช่า-ยืมแทนการครอบครอง โดยธุรกิจนี้ จึงสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ให้บริการและในขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ตลอดจนเป็นการนำทรัพยากรที่ยังไม่ถูกนำมาใช้หรือทรัพยากรส่วนเกิน (Excess Capacity) มาจัดสรรให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่เมื่อไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาด ธุรกิจแบบนี้ส่วนใหญ่ต้องประกาศลดพนักงานเป็นจำนวนมากเนื่องจาก มาตรการที่หน่วยงานสุขภาพทั่วโลกได้นำมาใช้เพื่อช่วยลดจำนวนการแพร่เชื้อจากการระบาด นั่นก็คือ การเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความปกติใหม่ที่เกิดขึ้น จากวิกฤตครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นช่วงที่ยากลำบากของบริษัทและพนักงาน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นปรากฎการณ์ที่เหล่าบริษัทใหญ่ ๆ ต่างช่วยกัน คือการช่วยหางานใหม่ให้กับพนักงาน และส่งต่อไปยังบริษัทอื่น ๆ แม้กระทั่งคู่แข่ง Grab อีกหนึ่งผู้ให้บริการรับส่งผู้โดยสาร สินค้า และอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่เป็นเจ้าใหญ่ของตลาดในประเทศไทย แม้จะยังไม่ประกาศเลิกจ้างพนักงงาน แต่มีมาตรการขอให้พนักงานหยุดงานโดยไม่รับเงินเดือน เพื่อไม่ให้กระทบการเงินของบริษัท […]

Read More…

ขับเคลื่อนองค์กรยุคใหม่ วิสัยทัศน์ต้องมาพร้อมกลยุทธ์

คุณพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์และการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เทคนิคการแปลงวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยสามารถสรุปสาระสำคัญจากการบรรยายได้ดังนี้ โลกธุรกิจปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายเพิ่มขึ้น ทำให้จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการหารายได้เพื่อความอยู่รอด แต่รู้หรือไม่ว่าการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนต้องเริ่มจากการตั้งวิสัยทัศน์ขององค์กรให้ชัดเจน กล่าวคือมองตัวเองอย่างไรในอนาคตอันไกล (ระยะ 10 ปีขึ้นไป) จึงต้องพยายามปรับตัวไปในแนวทางนั้นโดยไม่หลุดจากกรอบที่วางไว้ เพื่อให้ทุกคนมองเห็นเป้าหมายขององค์กรไปในทิศทางเดียวกัน และนำมาซึ่งการขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ  ดังนั้น 3 ทางลัดในการสื่อสารวิสัยทัศน์ไปยังพนักงานทุกระดับจึงมีความสำคัญ  ตั้งเป้าหมายร่วมกันและวัดผล : ต้องเพิ่มการมีส่วนร่วมของทุกคนในองค์กร ด้วยการสร้างรูปแบบการวัดผลที่ยึดโยงกับ KPI เงินโบนัส หรือค่าตอบแทนต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจในการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย   เสริมทักษะรอบด้านให้พนักงาน : เพื่อให้พนักงานทำงานได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ การเทรนนิ่ง และโค้ชชิ่ง โดยมีวัตถุประสงค์ให้ทุกคนเข้าใจว่าจากขอบเขตหน้าที่ในปัจจุบัน จะมุ่งไปสู่เป้าหมายในอนาคตขององค์กรได้อย่างไร ขณะที่ผู้บริหารต้องวางบทบาทเป็น Role Model เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเป้าหมายนั้นสามารถบรรลุผลได้จริง สร้างแรงบันดาลใจ : เป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่จะตอกย้ำวิสัยทัศน์ขององค์กรผ่านรูปแบบ Story Telling เพื่อสร้างความฮึกเหิมและแรงบันดาลใจให้พนักงานทุกคนอยากสร้าง Success Stories เป็นของตนเอง อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนต้องมาพร้อมกับกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพราะทุกธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่หยุดนิ่ง กรอบกลยุทธ์ขององค์กรจึงควรกำหนดเป็นระยะสั้น – กลาง เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ และต้องหมั่นทบทวนกลยุทธ์นั้นอย่างสม่ำเสมอ ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bluebik ได้ที่ Website – www.bluebik.comFacebook – facebook.com/bluebikgroupTwitter – twitter.com/bluebikInstagram – instagram.com/bluebikgroupLinkedin – linkedin.com/company/bluebik […]

Read More…

Brick-and-mortar Shops Focusing on Creating Good Customer Experience with Technology to Impress Gen M

The businesses that depend mainly on brick-and-mortar shops to adapt during the new wave of COVID-19 to create strengths and opportunities. They should apply technologies including geofencing technology, the Internet of Things (IoT) and cloud computing to offer the good customer experience that suits the completely changing behaviors of consumers, especially the millennials who have […]

Read More…

สร้างรายได้ให้ธุรกิจด้วยโมเดล Customer Lifetime Value

ทำความรู้จักกับ Customer Lifetime Value (CLV) กลยุทธ์สร้างรายได้ให้ธุรกิจด้วยการดึงลูกค้าใหม่ เอาใจลูกค้าเก่า การสร้างสรรค์สินค้าและบริการในปัจจุบัน หากใช้วิธีการออกแบบตามความพึงพอใจของผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเทรนด์ของการทำธุรกิจในยุคนี้ ผู้ผลิตต้องยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ทำทุกอย่างโดยมองจากมุมมองของลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้ตอบสนองความต้องการหรือ Pain Point ของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด เพราะเมื่อลูกค้าเกิดความพึงพอใจในสินค้าและบริการของเรา แวะเวียนมาอุดหนุนบ่อยๆ จนกลายเป็นลูกค้าประจำ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ! CLV มักถูกนำมาใช้ประเมินความคุ้มค่าในการบริหารจัดการลูกค้า และเป็นตัวชี้วัดการปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจ หากจะกล่าวให้ชัดก็คือ การคำนวณว่าลูกค้า 1 คน จะสามารถสร้างมูลค่าให้ธุรกิจได้เท่าไรตลอดระยะเวลาที่เขาเป็นลูกค้าของเรา โดยวิธีการคำนวณมูลค่าที่ง่ายที่สุดแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ คำนวณจากข้อมูลของลูกค้ารายบุคคล ซึ่งต้องนำมูลค่าการซื้อต่อครั้ง ไปคูณกับความถี่ในการซื้อ จากนั้นจึงนำผลลัพธ์ที่ได้ไปคูณกับระยะเวลาที่เขาเป็นลูกค้าของเรา  คำนวณจากข้อมูลภาพรวม โดยนำมูลค่าเฉลี่ยของลูกค้า ไปคูณกับระยะเวลาเฉลี่ยที่เขาเป็นลูกค้าของเรา ตัวอย่างเช่นร้านกาแฟ “สตาร์บัค” ประเมินว่าลูกค้าแต่ละคนจะใช้จ่ายต่อครั้งอยู่ที่ 5.9 ดอลลาร์ หากภายในสัปดาห์ลูกค้าเข้าร้านเฉลี่ย 4.2 ครั้ง แสดงว่าสตาร์บัคจะสามารถสร้างรายได้ต่อสัปดาห์จากลูกค้าหนึ่งคนอยู่ที่ 24.3 ดอลลาร์ และหากประเมินว่าลูกค้าคนดังกล่าวจะเป็นลูกค้าของเราไปอีก 20 ปี ก็สามารถนำรายได้ต่อสัปดาห์มาคูณกับจำนวนสัปดาห์ในหนึ่งปี และคูณกับจำนวนปีที่เขาจะเป็นลูกค้าของเรา (24.3 x 52 x 20) ผลลัพธ์ที่ได้ 25,272 ดอลลาร์ ประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับก็คือจะสามารถบริหารจัดการสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับลูกค้าได้ดีขึ้น อาทิ การคำนวณค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมสำหรับการหาลูกค้าใหม่หรือการรักษาลูกค้าเก่า และการทำ Segmentation ลูกค้าในระดับบุคคลได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดยธุรกิจที่ต้องการนำโมเดลดังกล่าวมาปรับใช้ จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 2 ข้อ ต้องเริ่มจากการประเมินว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายมียอดการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ต่อครั้งมากน้อยเพียงใด […]

Read More…